แม่ท้องหลายท่าน คิดกินเผื่อลูกในท้องจึงเพิ่มทุกอย่างเป็น 2 เท่า โดยไม่ใส่ใจน้ำหนัก นอกจากน้ำหนักเพิ่มเกินเกณฑ์ โรคอ้วนถามหา ก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ กินแบบคุณภาพดีกับลูก แม่ไม่อ้วนทำอย่างไร? มาดูกันเลย!!
ดูเสร็จอย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะคะ^^
1.กินผัก อาหารที่มีแคลอรี่ต่ำแต่ให้ประโยชน์เยอะ
ผัก เห็ด สาหร่ายเป็นสารอาหารที่ให้แคลอรี่ต่ำ ที่ควรนำมาประกอบคู่กับเนื้อสัตว์เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณคุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งในผักมีกากใยที่จะช่วยป้องกันอาการท้องผูก หรือริดสีดวงทวารที่อาจเกิดระหว่างตั้งครรภ์ให้กับคุณแม่ท้องได้ เมนูแนะนำ เช่น แกงจืดหมูสับแตงกวา หน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้ง สลัดผักเซเลอรี่ บร็อคโคลี่ผัดหมู ยำเห็ดรวม
2.เลือกรับประทานเนื้อสัตว์ส่วนที่มีไขมันติดน้อย
แม้เนื้อสัตว์จะมีธาตุเหล็กสูง ที่ช่วยป้องกันให้แม่ท้องห่างจากโรคโลหิตจางได้ แต่ก็ควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ในส่วนที่มีไขมันน้อย ไม่ติดมันมาปรุงอาหารจะดีที่สุด เช่น เนื้อไก่ส่วนอกหรือส่วนน่อง เนื้อหมูหรือเนื้อวัวควรเป็นเนื้อสันในไม่ติดมัน เพราะเนื้อสัตว์แต่ละส่วนจะมีปริมาณไขมันที่แตกต่างกัน
3.กินอาหารมื้อย่อย 5-6 มื้อต่อวัน
ในช่วงที่คุณตั้งครรภ์นั้น คุณจะรู้สึกหิวบ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเข้าสู่ไตรมาสที่สอง การแบ่งเป็นมื้อย่อยห้าหรือหกมื้อตลอดทั้งวัน ในปริมาณที่พอดีต่อมื้อ หรือเป็นของว่างที่มีประโยชน์ ช่วยเพิ่มสารอาหารบางอย่างที่ขาดไปในมื้อหลัก เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต ถั่ว ลูกพรุน หรือลูกเกด ฯลฯ เพื่อช่วยให้คุณแม่ไม่รู้สึกอัดอัดแน่นท้อง จากระบบย่อยที่ไม่สมบูรณ์ในช่วงนี้ และแก้ความหิวจุกจิกได้
โดยมื้อหลัก 3 มื้อยังคงเป็นอาหารปกติที่เน้นโปรตีน เพื่อนำไปใช้ในการสร้างอวัยวะและส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก และลดอาหารจำพวกคาร์โบเดรตให้น้อยลง เพราะระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายจะนำคาร์โบไฮเดรตไปใช้น้อยลง โดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่ไม่ค่อยออกกำลังกายก็จะยิ่งมีโอกาสอ้วนได้ง่าย
4.เลือกกินอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อการตั้งครรภ์
การควบคุมน้ำหนักระหว่างการตั้งครรภ์นั้น สำคัญพอ ๆ กับการที่คุณแม่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ดีเข้าไปด้วย โภชนาการที่ดีก็จะทำให้คุณแม่มีสุขภาพร่างกายและครรภ์ที่ดี เช่น
•เน้นอาหารที่มีโฟเลต ได้แก่ น้ำส้มคั้น สตรอเบอร์รี่ ผักโขม บร็อคโคลี ถั่วลันเตา และขนมปังหรือซีเรียล ที่ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางในระหว่างตั้งครรภ์
•เลือกอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผัก ผลไม้และถั่วลันเตา ฯลฯ ที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักและป้องกันปัญหาทางระบบการย่อยอาหารอย่างอาการท้องผูก
•เลือกใช้ไขมันดีแบบไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสง เป็นต้น
•ควรมีผักและผลไม้รวมอยู่ในมื้ออาหารบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
•ลดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและหันมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ นมหรือนมถั่วเหลืองไขมันต่ำ
5.ทานอาหารที่มีแคลเซียมอย่างน้อย 4 มื้อ/วัน
แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อคุณแม่เป็นอย่างมาก ถ้าหากไม่ทานแคลเซียมเลย จะส่งผลกระทบทั้งต่อตัวคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระดูกพรุน รวมถึงภาวะต่าง ๆ ส่วนในลูกน้อยก็จะมีผลต่อการเจริญเติบโตเช่นกัน ในส่วนนี้แนะนำให้ทานนม ผักโขม กุ้งแห้ง ถั่วหลาย ๆ ชนิด เต้าหู้ ปลาตัวเล็กตัวน้อย เป็นต้น ควรแบ่งทานวันหนึ่งให้ได้ 4 มื้อ (หรือทุกมื้อควรทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง)
ด้วยการกินอาหารมีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอดน้ำมัน เปลี่ยนวิธีการปรุงด้วยวิธีการนึ่ง ต้ม เลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ ควบคุมแป้งและน้ำตาล หลีกเลี่ยงการกินของหวานในปริมาณมาก น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ ไม่ควรกินอาหารรสเค็มจัด ร่างกายที่ได้รับเกลือมากเกินไปจะทำให้เกิดความดันสูง มีอาการบวมน้ำได้ และแหล่งอาหารที่อาจติดเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ เป็นต้น
อาหารคนท้องเป็นสิ่งสำคัญค่ะ บางท่านบำรุงมากเกินไปอาจอันตรายเสี่ยงโรคได้ บางท่านทานน้อยไปลูกก็ขาดสารอาหาร ครรภ์คุณภาพหัวใจสำคัญของการบำรุง คือ อาหารครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายเบาๆอย่างสม่ำเสมอค่ะ