ท้องแข็งแบบต่างๆ แยกอย่างไร ลูกโก่งตัว แค่กินอิ่ม หรือใกล้คลอดแล้ว แบบไหนถือว่าปกติ แบบไหนอันตรายต้องรีบไปพบแพทย์ มาดูกัน!!
อาการท้องแข็ง ตามความหมายของคุณหมอมักจะหมายถึง การบีบตัวของมดลูก เป็นอาการที่พบได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการท้องแข็งนี้ มักจะสร้างความกังวลใจให้กับแม่ท้องไม่น้อย บางครั้งพอลุกยืนท้องก็แข็ง ล้มตัวนอนท้องก็แข็งอีก จนแม่ท้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายบ้าง กลัวว่าจะเป็นอาการใกล้คลอดบ้าง เรามาดูกันว่า ท้องแข็งแบบต่างๆ แยกอย่างไร แบบไหนปกติ แบบไหนอันตราย
1.ท้องแข็งเพราะเบบี๋โก่งตัว
ท้องแข็งลักษณะนี้จะ“แข็งบางที่ นิ่มบางที่” นั่นเป็นเพราะว่า ตัวเบบี๋โตแล้ว มีแขน ขา หลัง ก้น ศอก และไหล่ ดังนั้นเวลาที่เค้าอยู่ในท้องคุณแม่ที่นิ่มๆ ก็จะมีด้านนึงที่แข็ง ซึ่งก็คือเป็นหลังกับก้น ส่วนอีกด้านเมื่อคลำไปก็จะมีอาการดิ้นเบาๆ ซึ่งก็คือ มือและเท้านั่นเองค่ะ แบบนี้เป็นธรรมชาติของเบบี๋ที่จะกลับตัวหรือโก่งตัวค่ะ ไม่มีอันตรายอะไร ไม่ต้องกังวลค่ะ
2.ท้องแข็งเพราะเพิ่งทานข้าวเสร็จ
เวลาที่คุณแม่เริ่มท้องแก่ และพื้นที่ในท้องคุณแม่ก็มีจำกัด มดลูกก็โตเอาโตเอาจนไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ เบียดกระเพาะอาหาร เบียดลำไส้จนร่นขึ้นไปอยู่ใต้กระบังลม ดังนั้น เวลาคุณแม่ทานอะไรนิด อะไรหน่อยก็จะบ่นว่าแน่นท้อง อาการแบบนี้ไม่ใช่อาการของมดลูกบีบตัวนะคะ แต่มดลูกถูกอวัยวะอื่นเบียดจนแข็ง แต่ถ้าคลำดูช่วงท้องเท่านั้นที่แข็งค่ะ ส่วนมดลูกยังนิ่มอยู่
เพราะฉะนั้นหากไม่ให้ทานอาหารแล้วแน่นเกินไป คุณแม่ควรกินครั้งละน้อย แต่บ่อยแทน เน้นอาหารที่ย่อยง่าย หลังทานแล้วควรรอให้เรอซะก่อน ที่สำคัญควรให้ถ่ายท้องทุกวัน ร่างกายคุณแม่จะได้สบายขึ้น แล้วจะส่งผลให้อารมณ์ดีด้วยค่ะ
อาการท้องแข็งแบบนี้อันตราย!!
1.อาการท้องแข็งที่เกิดก่อนการตั้งครรภ์ในสัปดาห์ที่ 28 ควรปรึกษาแพทย์ถึงอาการที่เป็น เพื่อหาสาเหตุที่ท้องแข็งก่อนกำหนดและหลีกเลี่ยงหรือรักษาอาการ
2.ท้องแข็งนานกว่า 70 วินาที โดยอาการท้องแข็งนี้จะปวดรุนแรงจนทำให้แม่ท้องเหนื่อยและรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน
3.มีเลือดออกมาทางช่องคลอดพร้อมกับอาการท้องแข็งหรือไม่พร้อมก็ตาม เป็นอาการที่ไม่ใช่ภาวะปกติของอาการท้องแข็งธรรมดา เพราะอาจหมายความได้ถึง การติดเชื้อ รกเกาะต่ำ ฯลฯ
4.มีน้ำใส ๆ ไหลออกมาทางช่องคลอด โดยไม่มีอาการท้องแข็งหรือมีพร้อมกับอาการท้องแข็ง เพราะนั่นหมายถึงอาการน้ำคร่ำรั่ว หรือ น้ำคร่ำแตก
5.ท้องแข็งนานกว่า 5 นาที และเกิดอาการทุก ๆ ชั่วโมง นั่นหมายถึงมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแล้วค่ะ ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
6.อาการท้องแข็งทำให้แม่ท้องปวดมาก หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว เพราะนั่นหมายถึงอาการความดันในเลือดสูงขณะตั้งครรภ์ หรือ น้ำตาลในเลือดต่ำขณะตั้งครรภ์ ได้ ควรที่จะไปพบแพทย์โดยด่วนเช่นกันค่ะ
7.ท้องแข็งอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน แต่ทารกไม่สามารถคลอดได้ แสดงว่ากล้ามเนื้อมดลูกส่วนล่างจะบางมากและนำไปสู่ภาวะมดลูกแตกได้
8.ท้องแข็งจนลูกดิ้นน้อยลงมาก นั่นหมายถึงเกิดสิ่งผิดปกติกับลูกในท้องค่ะ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยด่วน
อาการท้องแข็งดูเหมือนจะน่ากลัวสำหรับแม่ท้องทุกคน แต่ข้อดีของอาการท้องแข็งใกล้คลอดคือ การทำให้แม่ท้องรับรู้ว่าการเจ็บท้องคลอดจะมีความรู้สึกยังไง ควรปฏิบัติตัวอย่างไร และยังเป็นสัญญาณให้แม่ท้องได้เตรียมสิ่งของและเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อถึงเวลาที่จะต้องไปโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาได้ทันเวลาค่ะ