คนท้องกินมากไป อยากบำรุงลูกในท้อง โหมกินมาก ๆ ลูกเสี่ยงแพ้นะรู้ไหม ถ้าไม่อยากให้ลูกคลอดออกมาเป็นภูมิแพ้ แม่ท้องต้องรู้ อะไรกินมากไปลูกเสี่ยงแพ้แบบนี้ มาดูปริมาณที่พอดีกันค่ะ!!
ทำไมลูกถึงแพ้ อาหารกลุ่มเสี่ยง??
เพราะอาการแพ้ อาหารกลุ่มเสี่ยง หรือการที่ลูก เกิดมาเป็นโรคภูมิแพ้ ปัจจัยแรกมาจากพันธุกรรม ซึ่งหากตัวคุณแม่เองหรือคนในครอบครัวทั้งทางคุณแม่และคุณพ่อมีประวัติภูมิแพ้ ก็อาจทำให้ลูกเกิดมาเป็นภูมิแพ้ด้วย ปัจจัยต่อมาก็คืออายุครรภ์ที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้ และปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับ
โดยทั่วไปถ้าคุณแม่ท้องได้รับสารก่อภูมิแพ้ในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ จะไม่ค่อยมีผลอะไรมากนักกับความเสี่ยงในการเกิดภูมิแพ้ในอนาคต … แต่ถ้าแม่ท้องได้รับสารก่อภูมิแพ้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปก็อาจจะมีผลขึ้นกับปริมาณของ อาหารกลุ่มเสี่ยง หรือ สารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับ
ซึ่งถ้าได้รับในขนาดที่น้อยถึงน้อยมากก็จะไม่มีผลอะไร
แต่ถ้าได้รับในขนาดปานกลางก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทาน
แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดการแพ้ได้
แต่ถ้าได้รับหลังคลอด ในปริมาณเล็กน้อยก็จะไม่มีผล
แต่ถ้าปริมาณมากหลังคลอด (กินนมแม่ ที่แม่กินอาหารกลุ่มเสี่ยง) ก็จะทำให้เกิดการแพ้
ซึ่งโรคภูมิแพ้ที่ลูกน้อยมักเป็นหลังคลอด หมายถึง สิ่งต่างๆที่จะสามารถส่งผ่านไปยังตอนเป็นทารกในครรภ์ได้ เพราะต้องดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและผ่านรกไปยังลูกน้อย สารก่อภูมิแพ้ที่พูดถึงในที่นี้ คือ อาหารการกินของแม่ท้อง นั่นเอง
อาการแพ้อาหารเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่พบบ่อย มี 3 ระบบได้แก่
ระบบทางเดินอาหาร : จะแสดงอาการคันปาก ปากบวม ริมฝีปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน (เป็นอาหารหรือเป็นเลือด) ปวดท้อง ท้องเสีย (ถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นเลือดปน) ในเด็กเล็กบางรายอาจพบอาการปวดท้องแบบโคลิก
ระบบผิวหนัง : จะแสดงอาการผื่นคัน ลมพิษ บวมใต้ผิวหนังที่หน้า หนังตา ริมฝีปาก
ระบบทางเดินหายใจ : จะแสดงอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ หอบ แน่นหน้าอก ในรายที่อาการแพ้รุนแรง มีอาการคอและหลอดลมบวมจนตีบ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ความดันโลหิตต่ำ ช็อกรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารอย่างไรจึงจะลดความเสี่ยงภูมิแพ้ของลูกได้?
ในปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เด็กมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการแพ้อาหารและโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่าน โดยเฉพาะบ้านที่มีความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ทางพันธุกรรมคือ คุณพ่อ, คุณแม่ และ/หรือ มีลูกคนที่ผ่านมาเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ย่อมมีความกังวลใจว่า ลูกน้อยคนถัดมาจะเป็นโรคภูมิแพ้ไปด้วย วันนี้เรามีหลักในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ของลูกมาฝากกัน โดยมีหลักการง่ายๆดังนี้ นะคะ
1. คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างสมดุลย์
โดยทานอาหารให้หลากหลาย ทั้งนี้คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีความต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 25 กรัมและพลังงานเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 300 กิโลแคลอรี มากกว่าปกติก่อนการตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ครบไตรมาสที่ 2 ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ทานข้าวเพิ่มขึ้นวันละ 1 ทัพพี ทานเนื้อสัตว์ไขมันต่ำเพิ่มขึ้นวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ เป็นต้นค่ะ
2. คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่จำเป็นต้องงดอาหารกลุ่มเสี่ยงที่มีรายงานว่าแพ้บ่อย
เช่น นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง แป้งสาลี และอาหารทะเล
โดยที่คุณแม่ไม่ได้แพ้อาหารเหล่านี้ เพราะการงดอาหารโดยไม่มีข้อบ่งชี้ นอกจากอาจทำให้เกิดการขาดสารอาหารทั้งคุณแม่ และลูกในครรภ์ ซึ่งอาจมีผลเสียต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกแล้ว ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการที่ลูกจะแพ้อาหารได้นะคะ
3. คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรทานอาหารกลุ่มเสี่ยงต่อการแพ้ในปริมาณที่มากเกินกว่าปกติ
เช่น ปกติก่อนตั้งครรภ์ดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว ทานไข่วันละไม่เกิน 1 ฟอง พอตั้งครรภ์ก็มีความเข้าใจผิดว่า ต้องบำรุงเป็นพิเศษ จึงดื่มนมวันละ 1-2 ลิตร ทานไข่วันละ 2-3 ฟอง การกระทำเช่นนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้คุณแม่น้ำหนักขึ้นเยอะเกินไป แล้วยังจะเพิ่มความเสี่ยงของการแพ้อาหารชนิดนั้น ๆ ให้แก่ลูก ด้วยค่ะ
4. คุณแม่ตั้งครรภ์บางท่านกลัวว่าลูกจะแพ้นมวัว จึงดื่มนมถั่วเหลืองแทนในปริมาณที่มากกว่าปกติ
เพื่อทดแทนการดื่มนมวัว อันนี้ก็ไม่สมควรทำเช่นกันค่ะ เพราะลูกอาจมีโอกาสแพ้ถั่วเหลืองได้ หลักการที่ถูกต้องคือ ไม่ควรทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำ ๆ มากจนเกินไปนะคะ