เพราะหน้าท้องของแม่ตั้งครรภ์นั้นขยายใหญ่ขึ้น ทำให้น้ำหนักถ่วงไปด้านหน้า อาจทำให้เสียสมดุลในการทรงตัว จนล้มหรือสะดุดหัวทิ่มได้ง่าย!! แม่ท้องจึงต้องระวังตัวให้มากขึ้น ....พฤติกรรมที่เสี่ยงเกิดอันตราย ที่คุณแม่ท้องทุกคนต้องระวังมีอะไรบ้างมาดูกัน!!
ดูเสร็จอย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะคะ^^
1. แม่ท้องตกจากส้นรองเท้า ทั้งส้นสูงและส้นเตี้ย
รองเท้าที่เรียวบางและสูง คงไม่สามารถรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของคุณแม่ จึงอาจจะทำให้คุณแม่เท้าพลิกหรือตกส้นรองเท้า จนเกิดบาดเจ็บขึ้นได้ ทั้งนี้การที่คุณแม่ตั้งครรภ์สวมรองเท้าส้นสูง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณน่อง ต้นขา เอว และหลัง เกิดความตึง และเกิดอาการปวดตามมา นอกจากนั้นยังพบว่า รองเท้าส้นสูงทำให้จุดศูนย์ถ่วงของแม่ตั้งครรภ์เสียสมดุลอาจทำให้ลื่นล้มแท้งบุตรได้
รองเท้าที่ดีของคนท้องต้อง “เตี้ย+แบน+นิ่ม” รองเท้าต้องส้นเตี้ยๆ ส้นยิ่งสูงเท่าไหร่ตัวเราก็ยิ่งแอ่นไปข้างหน้าเท่านั้น นอกจากยิ่งทำให้ปวดหลังแล้วก็ยิ่งทำให้หกล้มหน้าคว่ำได้ง่ายอีกด้วย ทั้งนี้รองเท้าที่ดีก็ต้องยึดเกาะถนนดีด้วย ควรมีพื้นเหมือนรองเท้ากีฬา มีร่องมีลายที่กันลื่นได้ดี
2. ท้องกระแทกกับพวงมาลัยรถยนต์ หรือ เข็มขัดนิรภัยรัดท้อง
คุณแม่ท้องที่ขับรถเอง แม้ไม่เกิดอุบัติเหตุก็อาจจะมีบ้างที่รถเบรกกะทันหันและรุนแรง จนท้องที่มีขนาดใหญ่อาจจะกระแทกกับพวงมาลัยได้ ซึ่งหากกระแทกในระดับเบาๆ ก็อาจจะไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ถ้ากระแทกบ่อยๆ หรือรุนแรงก็ย่อมเกิดอันตรายกับทั้งตัวคุณแม่และลูกในท้องได้ นอกจากนั้นหากคุณแม่คาดเข็มขัดนิรภัยไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นได้แล้ว ยังได้รับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นได้ด้วยค่ะ เช่น เข็มขัดนิรภัยรัดท้อง ถูกเข็มขัดนิรภัยรัดแขน
หากไม่ได้ตั้งท้องแล้วกำลังจะลื่นในห้องน้ำคุณผู้หญิงก็ยังสามารคงตัวได้ แต่เมื่อตั้งท้องแล้วต้องระวังเป็นพิเศษเพราะหากเกิดการลื่นอาจทำให้เสียการทรงตัวจนทำให้ล้มท้องกระแทกกับสิ่งของ หรือง่ายหลังก้นกระแทกพื้นจนเกิดการเจ็บปวดกล้ามเนื้อได้
ทางที่ดีคืออุบัติเหตุ แม่ท้อง ลื่นล้มในห้องน้ำ จะไม่เกิดขึ้นถ้าคุณแม่หลีกเลี่ยงเดินบริเวณที่มีน้ำขัง และมีพื้นผิวที่ลื่นเปียก ไม่ว่าจะเป็นในครัวหรือห้องน้ำ หากจำเป็นต้องเข้าไปจริง ๆ ควรระมัดระวังให้มาก เพราะอาจจะมีคราบน้ำมัน หรือคราบสบู่ ยาสระผม ครีมอาบน้ำหลงเหลืออยู่ที่พื้นก็เป็นได้
การที่แม่ท้องถูกไฟดูด ไฟช็อตอาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่ได้รับ ว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน หากเพียงแป๊บเดียวรู้สึกว่าจี๊ดๆ ในระยะเวลาไม่กี่วินาที แล้วดึงตัวออกมาได้ รวมถึงแม่ท้องเองไม่เป็นอะไร ไม่ได้รู้สึกชา เจ็บ หรือ ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ก็แสดงว่าลูกในครรภ์ไม่เป็นไร
แต่หากคุณแม่ท้องได้รับกระแสไฟฟ้าที่รุนแรง จนเกิดอาการหน้ามืด มีอาการชา มีอาการชัก รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หรือหมดสติ ลูกในครรภ์ก็ย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดังนั้นจึงต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
ปัญหาที่เกิดกับคุณแม่ที่ได้รับอุบัติเหตุรุนแรงก็อาจเป็นได้หลายรูปแบบ บางทีก็ไม่เป็นอะไรเลย บางทีก็เจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด บางทีรกก็ลอกตัวก่อนเวลาทำให้เด็กเสียชีวิตในครรภ์ได้ หรือถ้าหนักๆหน่อยอาจรุนแรงถึงมดลูกแตกได้เหมือนกัน
5. เผลอยกของหนัก เกินกำลัง หรือเผลอก้มทั้งๆ ที่ท้องใหญ่
มักจะเกิดกับคุณแม่จอมพลังที่เคยชินกับพฤติกรรมการยกของ (หนัก) เอง ช่วง 9 เดือนเห็นทีต้องถอดชุดมนุษย์จอมพลังออกก่อน กล่องใหญ่ เก้าอี้ตัวยักษ์ หรืองานที่ต้องออกแรง เรียกให้คุณพ่อหรือเพื่อนร่วมงานผู้ชายมาช่วยก่อนค่ะ ส่วนการเผลอก้มใส่รองเท้า หรือทำอะไรปรูดปราดรวดเร็วเกินตัว ส่วนใหญ่เกิดจากความเคยชินเดิมๆ ทำไปโดยอัตโนมัติ หรือคุณแม่บางคนอาจจะลืมไปว่ากำลังตั้งครรภ์ก็มีค่ะ
6. ท้องชนโต๊ะ ชนประตู เพราะกะระยะผิด
จากเดิมที่หน้าท้องเคยแบนราบ แต่เมื่อตั้งครรภ์ด้วยท้องที่โตขึ้นในแต่ละเดือน ด้วยความที่ยังไม่เคยชิน โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ก็อาจจะทำให้การกะระยะสิ่งของกับขนาดของท้องที่ยื่นออกไปผิดพลาด จึงอาจจะเห็นคุณแม่ท้องเดินชนของประจำเพราะความไม่เคยชินนี่ล่ะค่ะ
7. แม่ท้องโดนชน หรือถูกกระแทก
เพราะคุณแม่ท้อง หรือผู้หญิงอย่างเราๆ ก็ต้องออกเดินทางไปนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ซื้อของที่ตลาด หรือเดินเที่ยวเล่น ซึงจะห้ามไม่ให้คุณแม่เดินไปไหนมาไหนเลยคงยาก และยิ่งคุณแม่ท้องที่ทำงานไปด้วยแล้วก็อาจจะยิ่งยากต่อการที่จะเลี่ยงจากแหล่งชุมชน คนพลุกพล่าน ซึ่งนั้นอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ แม่ท้อง มีโอกาสที่จะโดนกระแทกหรือชนขณะที่เดินสวนกับคนอื่นมากขึ้น เพราะด้วยท้องที่ใหญ่เกินที่จะหลบเลี่ยงได้ ทางที่ดีคือ ควรพูดขอทางหรือทำสัญลักษณ์ อย่างการติดเข็มกลัดไว้ที่เสื้อ เพื่อให้รู้ว่าท้องอยู่
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบคุณหมอด่วนจี๋เลยค่ะ
1. เจ็บท้องตลอดเวลาหลังเกิดอุบัติเหตุ อาจจะเกิดรกลอกตัว มดลูกแตก หรือถ้าเดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวหายอาจจะเป็นการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
2. มีเลือดออกทางช่องคลอด เลือดออกกะปริดกะปรอย อาจจะเกิดจากการที่รกลอกตัว
3. จากที่ลูกเคยดิ้น กลับไม่ดิ้น