ทำไมทารกแรกเกิดทั้งผิวลอก ตัวแดง จามบ่อย เป็นตุ่ม จามบ่อย มาหาคำตอบเพื่อเตรียมดูแลทารกกันเลย!!
อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะคะ^^
สำหรับเด็กทารกที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลก จะพกสัญชาตญาณเพื่อการอยู่รอดในสภาพแวดล้อมนอกท้องแม่มาด้วยทุกคน และสิ่งแรกที่ทารกแรกเกิด ต้องใช้ คือ ทักษะเรื่องในการหายใจ จากนั้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็จะเริ่มทำงานทันที 10 เรื่องที่แม่ท้องห้ามพลาด จะได้เตรียม เข้าใจทารกมากขึ้น
อาการผิวหนังลอกของเด็กทารกแรกเกิด เป็นเพราะเมื่อคลอดออกมา ไขมันที่เคลือบอยู่ที่ผิวหนังตอนที่ลูกอยู่ในท้องจะหลุดออกด้วย ทำให้ผิวหนังชั้นนอกแห้งและเริ่มลอก เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมภายนอกท้องแม่ และในช่วง 1-2 สัปดาห์ ผิวหนังเก่าของลูกนั้นก็จะหลุดลอกออกมาพร้อมกับมีผิวหนังใหม่ที่ใสกว่า เต่งตึงกว่า ขึ้นมาแทนที่ ทั้งนี้คุณแม่ต้องระวังอย่าเผลอไปแกะ ดึง หรือขัด ผิวที่กำลังลอกของลูกน้อยเด็ดขาด ควรปล่อยให้ลอกออกมาเอง โดยจะหายไปใน 2-3 วัน คุณแม่ไม่ต้องไปทำอะไรกับผิวของลูกเลย
2.มีบางเวลา เหมือนลูกหยุดหายใจ
คุณแม่อาจสังเกตเห็นในขณะที่ลูกนอน บางครั้งเหมือนลูกหยุดหายใจ นั้นเป็นเพราะกล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจของทารกยังไม่แข็งแรงเต็มที่ การกระเพื่อมของทรวงอกจึงมีน้อย และเมื่ออายุประมาณ 6 สัปดาห์ การหายใจของลูกจะชัดขึ้นเอง แต่หากคุณแม่สังเกตเห็นอีกว่าลูกหยุดหายใจเกิน 20 วินาที นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตราย คุณแม่ต้องรีบพาไปพบหมอด่วน
3. ทำไมบนหน้าของลูกถึงเต็มไปด้วยเม็ดตุ่ม
เป็นเรื่องที่ปกติสำหรับเด็กแรกเกิดบางคน ที่จะมีสิวในทารก เป็นเหมือนตุ่มเล็กๆ โดยสิวในทารกนั้นเกิดจากฮอร์โมนของคุณแม่ที่ยังหลงเหลืออยู่นั่นเอง วิธีการดูแลคือ ให้ล้างหน้าของเจ้าหนูอย่างอ่อนโยน และระวังอย่าให้หน้าของลูกโดนผ้าที่ถูกซักโดยผงซักฟองชนิดรุนแรงด้วย
4. ทำไมผิวหนังของลูกถึงมีรอยเหี่ยวย่น
ผิวหนังของเด็กทารกแรกเกิดจะมีรอยเป็นสีม่วงๆ หรือ แดง และมีก้อนสีขาวๆ ปกคลมอยู่ด้วย หลายท่านอาจสงสัยว่าคืออะไร สำหรับก้อนสีขาวๆ ที่ปกคลุมตามผิวหนังของทารกนั้นเรียกกันว่า vernix หรือไขมันในทารกแรกเกิดที่ช่วยปกป้องผิวบอบบางของทารกจากน้ำคร่ำในมดลูก ส่วนรอยสีแดงๆ ตามตัวของทารกแรกเกิดนั้นมาจากหลอดเลือดใต้ผิวหนังของทารก เพราะเมื่อเด็กเพิ่งเกิด ผิวหนังจะบอบบางและค่อนข้างโปร่งใส จึงทำให้เห็นสีของหลอดเลือดชัดขึ้น หลังผ่านไปหนึ่งหรือสองวันผิวจะเริ่มกลายเป็นสีชมพู และจากนั้นจึงค่อยกลายเป็นสีผิวหนังตามปกติ
5. อุจจาระของลูกถึงเหมือนคนที่มีอาการท้องร่วง
เคยแปลกใจหรือกังวลไหมว่า ทำไมอุจจาระของลูกถึงเหมือนคนที่มีอาการท้องร่วง คือเป็นสีเหลืองอ๋อย บางครั้งก็เป็นเม็ดๆ ดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง แถมลูกยังอุจจาระออกมาครั้งละน้อยๆ แต่หลายครั้งต่อวันอีก ความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติของเด็กแรกเกิดและคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ อาการเหล่านี้ล้วนเกิดมาจาก ปฏิกิริยาจากกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ ที่เมื่อทารกดูดนมเข้าไป ก็จะอุจจาระออกมา แต่เมื่อระบบย่อยอาหารของทารกเริ่มคุ้นชินกับการดื่มนม อาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ ลดลงค่ะ
6. มีจุดนิ่มๆ บนหัวของลูกน้อย
สำหรับคุณแม่มือใหม่อาจตกใจ เมื่อเห็นจุดตรงกลางหัว ซึ่งอยู่เลยหน้าผาก ขึ้นไปมีลักษณะนิ่มๆ บุ๋มโบ๋วลงไป นั้นเรียกว่า กระหม่อม โดยเด็กทารกแรกเกิดจะเป็นทุกคน ซึ่งสาเหตุที่กระหม่อมลูกยังนิ่มอยู่นั้นก็เพราะก่อนคลอด ศีรษะของทารก จะมีลักษณะเป็นแผ่นกระดูกหุ้มสมอง สามารถหดชิดยืดหยุ่นเข้ามาหากันได้ ทำให้ศีรษะของทารกผ่านช่องคลอดออกมาได้ง่ายในระหว่างที่แม่เบ่งคลอดนั้นเอง แล้วกระหม่อมนิ่มๆ ของลูกน้อยนั้นจะปิดและกลายเป็นกระดูกของกะโหลกศีรษะได้ภายในช่วงอายุ 2 ขวบปีแรก
7. เสียงร้อง ฟังคล้ายกันหมด
ความจริงแล้วเสียงร้องของเด็กจะมีความแตกต่างกัน และบ่งบอกความต้องการของลูกได้ แต่ถ้าลูกร้องทีไรก็เสียงเดียวกันหมด นั่นเป็นเรื่องปกติที่ช่วงแรกๆ คุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกแบบนั้น แต่อย่ากังวล เพราะเวลาจะช่วยทำให้สามารถแยกแยะเสียงได้เอง ลองตอบสนองลูกขั้นพื้นฐานไปเรื่อยๆ สักพักก็รู้ใจกันเอง
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เสียงร้องหลักๆ ของทารกมีอยู่ 4 เสียง คือ
เสียง เฮะ หมายถึงเปียกชื้นหรือไม่สบายตัว
เสียง อาว หมายถึงง่วงนอนอยากพักผ่อน
เสียง อึนหมายความว่าหนูหิวนม หากพ่อแม่จะจับเสียงเหล่านี้ได้ต้องใช้เวลาและต้องสนใจที่จะเรียนรู้ด้วย
แม้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านจะกังวลที่ลูกน้อยวัยแรกเกิดจามบ่อยๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเลย เพราะการจามของทารกเป็นวิธีที่พวกเขาใช้ในการขับน้ำคร่ำและสิ่งที่เจือปนอยู่ในอากาศออกจากร่างกาย
ท่าทางยึกยัก ถีบแข้งถีบขาของทารกในช่วงแรกเกิด เป็นเพราะลูกจะมีพื้นที่ในการดิ้น หรือเคลื่อนไหวแขนขามากกว่าตอนอยู่ในท้องแม่ แต่ก็ยังบังคับกล้ามเนื้อแขนขาไม่ถนัดได้ จึงยกสะเปะสะปะไปเรื่อยอาจดูเหมือนกับลูกกระตุกหรือสะดุ้งตลอดเวลา แต่อาการนี้จะลดลงเองภายใน 2-3 สัปดาห์ และจะค่อยๆ หายไปภายใน 3 เดือน
10. ทำไมมือและเท้าของลูกถึงเย็นอยู่ตลอดเวลา
ระบบไหลเวียนโลหิตของทารกแรกเกิดนั้นยังไม่พัฒนาเต็มที่ ดังนั้นโดยมากเลือดจะไหลไปเพื่อช่วยในการทำงานของอวัยวะหลักหรืออวัยวะสำคัญๆ มากกว่า หลังผ่านไป 2-3 เดือน ระบบไหลเวียนโลหิตของทารกจะพัฒนาได้เต็มที่ขึ้นและร่างกายของทารกจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่ไม่ได้อยู่ในมดลูกได้แล้ว เมื่อถึงตอนนี้มือและเท้าของทารกก็จะไม่เย็นอีกต่อไป