https://www.tiktok.com/@childingeverything
ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว
"คนท้อง Everything"
เพจคนท้อง และ สุดยอดร้านชุดคลุมท้อง อันดับ 1 ของประเทศไทย
***อ่านบทความ เลื่อนลงไปเรื่อยๆค่ะ*** 
💝"คนท้อง Everything" ภูมิใจที่ได้ทำให้คนเข้าใจ "คนท้อง" มากขึ้น💝
"ยิ่งท้องยิ่งสวย"
+ คนท้อง Everything
+++ เพจที่ "คนท้อง" ต้องกด Like
+++++ Website ที่ "คนท้อง" ต้องรู้จัก!!!
............................................................................................................................................................
ท้องแข็งกับลูกตัวโก่งต่างกันยังไง
6 ปีที่ผ่านมา
ท้องแข็งแบบต่างๆ แยกอย่างไร แบบไหนลูกโก่งตัว แบบไหนมดลูกบีบ แบบไหนใกล้คลอดมาดูกันเลยค่ะ
ดูเสร็จอย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะคะ^^
ดูเสร็จอย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะคะ^^
อาการท้องแข็ง
เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น มดลูกที่อยู่ตรงหน้าท้องของคุณแม่ก็โตมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นก้อนนิ่มๆ มีเจ้าตัวเล็กคอยดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ข้างใน อยู่มาวันนึง..เอ๊ะ!..ทำไมมดลูกถึงมีการแข็งขึ้นมาเป็นก้อนๆ บางทีก็แข็งตรงโน้นที แข็งตรงนี้ รู้สึกแน่นท้องไปหมดโดยเฉพาะหลังกินอิ่มๆ ท้องแข็งแบบนี้จะเป็นอะไรหรือเปล่า จะคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่านะต้องไปหาหมอเลยไหม?
ท้องแข็งแบบต่างๆ แยกอย่างไร
อาการท้องแข็ง ตามความหมายของคุณหมอมักจะหมายถึง การบีบตัวของ บางครั้งพอลุกยืนท้องก็แข็ง ล้มตัวนอนท้องก็แข็งอีก จนแม่ท้องกลัวว่าจะมีผลกระทบกับลูกในท้อง เรามาดูกันว่า ท้องแข็งแบบต่างๆ แยกอย่างไร มีลักษณะแบบไหนบ้าง
1.ท้องแข็งเพราะมดลูกบีบตัว
อาการท้องแข็งแบบนี้ มดลูกในท้องของคุณแม่จะมีอาการแข็งทั้งหมด ไม่แข็งเป็นบางจุดเหมือนอาการท้องแข็งเพราะเด็กโก่งตัว และจะมีอาการปวดท้อง เหมือนปวดประจำเดือน อาการท้องแข็งแบบนี้มักมีปัญหา โดยอาการท้องแข็งเพราะมดลูกบีบตัวนั้น สามารถแยกย่อยได้ดังนี้
ท้องแข็งของแท้ (มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด)
ปกติแล้วไม่ค่อยเกิดขึ้นช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ มีน้อยมากที่มีอาการเจ็บท้องก่อน 28 สัปดาห์ ช่วงอายุครรภ์ที่พบมีอาการท้องแข็ง มดลูกบีบตัวก่อนกำหนดบ่อยที่สุด ก็คือช่วงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ซึ่งก็เป็นช่วงที่ลูกในท้องดิ้นมากที่สุด การที่ลูกดิ้นมากๆก็อาจมีส่วนไปกระตุ้นทำให้มดลูกบีบตัวบ่อยขึ้นได้ด้วยเหมือนกัน และถ้าผ่านช่วง 32-34 สัปดาห์นี้ไปได้ก็จะมีอาการท้องแข็งน้อยลง แต่หากแม่ท้องมีอาการท้องแข็งบ่อย และถี่ขึ้น ไม่ได้แข็งเป็นบางจุด และบางทีรู้สึกแข็งมาก หรือแข็งจนรู้สึกแน่น
หายใจไม่ออก และอาการไม่ดีขึ้น ควรจะรีบไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เพราะหากท้องแข็งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษา มดลูกจะบีบตัวจนปากมดลูกเปิด ตามมาด้วยการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดได้
ท้องแข็งตามธรรมชาติ
คุณแม่บางคนอาจมีอาการท้องแข็งที่เกิดจากมดลูกบีบตัวได้ เป็นการแข็งตัวนิดๆหน่อยๆที่เกิดขึ้นได้เองเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายใดๆ อาการท้องแข็งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรรภ์ หากไม่แน่ใจว่า อาการท้องแข็งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่อย่างไร แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
2.ท้องแข็งเพราะลูกโก่งตัว
อาการยอดฮิตท้องแข็งแบบที่เจอกันบ่อย ๆ นั่นก็คือท้องแข็งเพราะลูกโก่งตัว โดยแม่ท้องจะรู้สึกว่ามีอาการท้องแข็งแบบ “แข็งบางที่ นิ่มบางที่” ท้องแข็งแบบนี้ เกิดจากเด็กในท้องดิ้น หรือโก่งตัว โดยอวัยวะของลูกในท้องอย่างเช่น ศอก ไหล่ เข่า หัว หรือก้น จะนูนตรงนั้นตรงนี้ไปทั่ว ส่วนที่มักจะนูนโก่งแข็งจนมดลูกเบี้ยวไปข้างนึงเลยก็มักจะเป็นหลังกับก้น อีกด้านนึงก็จะนิ่มกว่า แล้วก็จะรู้สึกลูกด้นเป็นจุดเล็กจุดน้อย ด้านนั้นก็จะเป็นส่วนของมือ ส่วนของเท้าอาการท้องแข็งแบบนี้ไม่มีอันตรายอะไร แม่ท้องไม่ต้องกังวล
3.ท้องแข็งเพราะกินอิ่ม
คุณแม่บางคนก็อาจจะบ่นว่ายิ่งท้องแก่ กินอะไรเข้าไปมันก็แน่นไปหมด กินเสร็จท้องก็แข็งเป็ก แน่นจนหายใจไม่ออก ต้องนั่งสักพัก ยืดตัวยาวๆ เดี๋ยวสักพักอาการก็ดีขึ้นเอง อาการนี้ก็มักเป็นกันตอนท้องแก่ๆมดลูกโตๆ ตอนท้องอ่อนๆท้องเล็กๆ ก็ไม่ค่อยมีอาการอย่างนี้สักเท่าไหร่ และไม่ได้เกิดจากมดลูกมีการบีบตัว คำแนะนำที่ช่วยลดอาการนี้ก็คือ ควรกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ รับประทานครั้งละน้อย ๆ หลังทานแล้วก็ต้องนั่งให้เรอออกมาก่อน แล้วพยายามอย่าให้ท้องผูก และควรขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน ก็จะแน่นท้องน้อยลง
4.ท้องแข็งจากสาเหตุอื่นๆ
จริง ๆ แล้วสาเหตุของอาการท้องแข็งนั้น มีมากมาย โดยอาจเกิดจากคุณแม่ไม่แข็งแรง สุขภาพไม่ดี อาจเป็นเบาหวาน ความดันสูง หรือมดลูกไม่แข็งแรง มดลูกมีโครงสร้างไม่ปกติ มีเนื้องอกของมดลูก หรือเกิดจากครรภ์แฝด เด็กตัวใหญ่ น้ำคร่ำมาก หรือ แม้แต่มีตกขาว มีการอักเสบของปากมดลูกก็เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย ๆ แต่สาเหตุที่พบมากที่สุด มากกว่า 30% ก็คือ ไม่ทราบสาเหตุก็เป็นไปได้
ท้องแข็ง ต้องทำอย่างไร มาดูวิธีรับมือกันเลยค่ะ
1.แม่ท้องไม่ควรกลั้นปัสสาวะ หากปวดปัสสาวะให้เข้าห้องน้ำทันที เพราะการกลั้นปัสสาวะนานๆ อาจทำให้เกิดอาการท้องแข็งได้
2.ไม่บิดขี้เกียจ เพราะจะทำให้ช่องท้องมีปริมาตรเล็กลง ความดันในมดลูกก็จะสูงขึ้น ทำให้ท้องแข็งได้
3.ไม่ควรรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้อิ่มจนเกินไป เพราะอาหารที่มากไป ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ รวมทั้งอาหารไม่ย่อย จนเกิดอาการท้องแข็งได้
4.ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ เพราะบางท่าของการมีเพศสัมพันธ์อาจไปกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวได้
5.ไม่ควรสัมผัสกับอวัยวะที่ไวต่อการกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวบ่อย ๆ เช่น บริเวณหน้าอก เต้านมเป็นต้น ระหว่างอาบน้ำก็ไม่ควรไปฟอกไปจับบริเวณหัวนมจนเกินความจำเป็น หากหัวนมแข็งชันขึ้นมาเมื่อไหร่ มดลูกก็อาจจะแข็งตัวตามมาได้
MEMBER
เข้าร่วมร้านค้า
ร้านคนท้อง Everything
/www.childingeverything.com/
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
Everything Group
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม