ในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะอ่อนเพลียได้ง่าย เหนื่อยไว และทำงานได้ไม่นานก็ต้องหยุดพักสักครู่แล้วจึงทำงานต่อไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพงานของคุณแม่แต่ละคน อย่างถ้างานที่คุณแม่ทำอาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเองและลูกน้อยในครรภ์ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะชีวิตและความปลอดภัยของลูกและตัวคุณแม่ย่อมมีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย...
ดูเสร็จอย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะคะ ^^1. การใช้สารเคมีที่รุนแรงผลิตภัณฑ์เช่น ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง น้ำยาทำความสะอาด หรือสารฟอกขาวที่มีสารระเหยที่เป็นอันตราย เป็นสิ่งที่แม่ท้องควรหลีกเลี่ยง โดยอาจจะลองเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นเช่น ใช้ชอล์กขีดมด และเทปดักแมลงวัน แทนผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่มีสารเคมี หรือจะลองใช้น้ำส้มสายชู เบคกิ้งโซดา และมะนาว ในการทำความสะอาดแบบธรรมชาติ แทนน้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีก็ได้
2. กวาดและถู
การกวาดและถูบ้าน อาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ ซึ่งถ้าแม่ท้องทำอย่างช้าๆ ในพื้นที่เล็กๆ ก็คงไม่เป็นอะไร เพียงแต่อาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- ใช้ไม้ถูบ้าน แทนการถูด้วยผ้า เพราะจะได้ไม่ต้องนั่งยองลงไปถู
- ระวังพื้นลื่น และพื้นที่ต่างระดับ เรื่องนี้สำคัญมากๆนะครับ
- หาถังน้ำถูบ้านแบบมีล้อลาก และไม่ควรยกถังน้ำด้วยตัวเอง
- ไม่หักโหม พักบ่อยๆหากรู้สึกเหนื่อย
3. ล้างห้องน้ำถ้าเป็นไปได้ แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการล้างห้องน้ำในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะการล้างห้องน้ำอาจทำให้แม่ท้องได้รับอันตรายจากน้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสารเคมีอันตรายที่มีกลิ่นฉุน รวมทั้งการใช้แรงขัดถู การนั่งลงไปขัดถู และความลื่นในห้องน้ำก็ล้วนแล้วแต่ไม่เป็นผลดีต่อแม่ท้องทั้งนั้น อย่าลืมครับว่า ความปลอดภัยของแม่ท้องและลูกในครรภ์ต้องมาก่อนเสมอ
4. โยกย้ายสิ่งของการโยกย้ายสิ่งของในบ้าน โดยเฉพาะสิ่งของชิ้นใหญ่ หรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เช่น ตู้ โต๊ะ ราวตากผ้า แม้ว่าจะมีคนช่วยยกก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายตอนเคลื่อนย้ายสิ่งของ มีความเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือลื่นล้มได้ นอกจากนั้นแล้ว ยิ่งท้องยิ่งใหญ่ หลังก็ยิ่งตึง จึงทำให้บาดเจ็บได้ง่าย ลองให้สามีหรือญาติช่วยเหลืองานพวกนี้จะดีกว่า
5. ดูแลความสะอาดสัตว์เลี้ยงเวลาที่แม่ท้องเปลี่ยนกระบะทรายแมว หรือเก็บอึน้องหมา ก็อาจทำให้แม่ท้องได้รับเชื้อปรสิต ที่อาจทำให้ลูกในครรภ์เป็นโรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) เกิดจากการติดเชื้อ ทอกโซพลาสมา กอนดิไอ (Toxoplasma gondii) ที่อยู่ในอุจจาระแมวได้ หากคุณต้องดูแลสัตว์เลี้ยง ควรสวมถุงมือทุกครั้ง และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
ที่มา
th.theasianparent.com