คนท้องกินอย่างไรไม่ให้อ้วน การกินในปริมาณที่มากเกินไป บางรายคิดกินเผื่อลูกในท้องจึงเพิ่มทุกอย่างเป็น 2 เท่า โดยไม่ใส่ใจน้ำหนัก นอกจากน้ำหนักเพิ่มเกินเกณฑ์ โรคอ้วนถามหา ก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้
น้ำหนักระหว่างการตั้งครรภ์ของคุณแม่จะเพิ่มมากหรือน้อยจึงขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารของคุณแม่เป็นสำคัญ ซึ่งโดยปกติแล้วแพทย์จะไม่แนะนำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลดน้ำหนักเพราะอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ลูกในครรภ์ขาดสารอาหารได้
แม้เนื้อสัตว์จะมีธาตุเหล็กสูง ที่ช่วยป้องกันให้แม่ท้องห่างจากโรคโลหิตจางได้ แต่ก็ควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ในส่วนที่มีไขมันน้อย ไม่ติดมันมาปรุงอาหารจะดีที่สุด เช่น เนื้อไก่ส่วนอกหรือส่วนน่อง เนื้อหมูหรือเนื้อวัวควรเป็นเนื้อสันในไม่ติดมัน เพราะเนื้อสัตว์แต่ละส่วนจะมีปริมาณไขมันที่แตกต่างกัน
ในช่วงการตั้งครรภ์ที่ทำให้คุณแม่รู้สึกหิวบ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเข้าสู่ไตรมาสที่สอง การแบ่งเป็นมื้อย่อยห้าหรือหกมื้อตลอดทั้งวัน ในปริมาณที่พอดีต่อมื้อ หรือเป็นของว่างที่มีประโยชน์ช่วยเพิ่มสารอาหารบางอย่างที่ขาดไปในมื้อหลัก เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต ถั่ว ลูกพรุน หรือลูกเกด ฯลฯ เพื่อช่วยให้คุณแม่ไม่รู้สึกอัดอัดแน่นท้องจากระบบย่อยที่ไม่สมบูรณ์ในช่วงนี้และแก้ความหิวจุกจิกได้โดยมื้อหลัก 3 มื้อยังคงเป็นอาหารปกติที่เน้นโปรตีนเพื่อนำไปใช้ในการสร้างอวัยวะและส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก และลดอาหารจำพวกคาร์โบเดรตให้น้อยลง เพราะระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายจะนำคาร์โบไฮเดรตไปใช้น้อยลง โดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่ไม่ค่อยออกกำลังกายก็จะยิ่งมีโอกาสอ้วนได้ง่าย
การควบคุมน้ำหนักระหว่างการตั้งครรภ์นั้นสำคัญพอ ๆ กับการที่คุณแม่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ดีเข้าไปด้วย โภชนาการที่ดีก็จะทำให้คุณแม่มีสุขภาพร่างกายและครรภ์ที่ดี เช่น
น้ำหนักตัวที่อยู่ในเกณฑ์ของคุณแม่ท้องตลอดการตั้งครรภ์ควรเพิ่มขึ้นประมาณ 10 -12 กิโลกรัม หากคุณแม่มีความเป็นกังวลในน้ำหนักตัวว่าน้อยหรือมากเกินไป สามารถปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ได้เพื่อให้คุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วยกันทั้งคู่.
อ้างอิงข้อมูลจาก :
www.beautiful-diet.com
th.wikihow.com
หน้าที่เข้าชม | 15,783,565 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,363 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |