1. เมื่อรู้ว่าท้องต้องรีบไปฝากครรภ์ จริงหรือไม่?
จริง : เมื่อคุณแม่ทราบว่าตนเองตั้งครรภ์แล้ว แนะนำให้รีบไปฝากครรภ์เนื่องจากการฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ คุณหมอซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมทั้งตรวจคัดกรอง และค้นหาความเสี่ยงที่พบบ่อยขณะตั้งครรภ์ได้ เช่น การตรวจคัดกรองภาวะซีดและพาหะโรคธาลัสซีเมีย การตรวจคัดกรอง เบาหวาน การตรวจยืนยันอายุครรภ์ที่แน่นอน รวมทั้งการตรวจคัดกรองทารกดาวน์ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก จะยิ่งมีความเสี่ยงต่าง ๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ
2. ดูแลน้ำหนัก ช่วยป้องกันท้องลาย
จริง : หน้าท้องลายขณะตั้งครรภ์เป็นผลจากการยืด และขยายตัวอย่างรวดเร็วของผนังหน้าท้องเนื่องจากคุณแม่ปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากเกินพอดี และเมื่อท้องลายเกิดขึ้นแล้วจะไม่หายไป แต่อาจจางลงได้ภายหลังคลอด ดังนั้นการควบคุมน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์ให้พอดีจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะนี้
3. เมื่อหมอบอกว่าผลตรวจอัลตร้าซาวด์ปกติ แสดงว่าลูกจะคลอดออกมาแข็งแรงดี
ไม่จริง : การตรวจอัลตร้าซาวด์เป็นเพียงการสืบค้น เพื่อคัดกรองความผิดปกติของทารกในครรภ์เบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากการตรวจอัลตร้าซาวด์เป็นเพียงการดูเงาของทารกในครรภ์ จึงไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติที่มีขนาดเล็กหรือซ่อนเร้นอยู่ได้ วัตถุประสงค์ของการตรวจอัลตร้าซาวด์ก็เพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ภายหลังคลอด เช่น ทารกในครรภ์ที่มีการเจริญของสมองผิดปกติ หรือทารกในครรภ์ที่มีโครงสร้างของหัวใจผิดปกติชนิดรุนแรง เป็นต้น
4. อยากให้ลูกคลอดออกมาตัวขาวใส ไม่มีไข ต้องดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้อง
ไม่จริง : แม้ว่าน้ำมะพร้าวจะมีประโยชน์เพราะเป็นแหล่งของวิตามินและเกลือแร่หลายชนิด แต่ไม่ได้มีผลกับสีผิวหนังและการเกิดไขตามร่างกายของทารกในครรภ์แต่อย่างใด เนื่องจากสีผิวหนังของทารกในครรภ์เป็นผลจากพันธุกรรมของคุณพ่อคุณแม่ ขณะที่ไขตามร่างกายของทารกในครรภ์นั้นเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ ไม่ได้เป็นอันตรายใด ๆ และสามารถเช็ดออกได้หมดภายหลังคลอด
5. เมื่อรู้ว่าท้องคุณแม่ต้องเสริมแคลเซียมให้ลูกในท้อง
ไม่จริง : ทารกในครรภ์ต้องการแคลเซียมเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อนำไปเสริมสร้างกระดูก และการเปลี่ยนแปลงขณะตั้งครรภ์ก็กระตุ้นให้คุณแม่มีการดูดซึมแคลเซียมจากทางเดินอาหารมากขึ้นอยู่แล้ว
6. ตอนท้องไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะเป็นอันตรายกับลูกและการตั้งครรภ์
ไม่จริง : การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เป็นข้อห้ามขณะตั้งครรภ์ สามารถกระทำได้ตามปกติแต่ต้องระวังไม่ให้รุนแรงเกินไปหรือเกิดการกดทับบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ อย่างไรก็ตามคุณแม่บางรายจะได้รับคำแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ขณะตั้งครรภ์ เช่น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด การตั้งครรภ์ที่มีรกเกาะต่ำ หรือคุณแม่ที่มีประวัติการคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น ทั้งนี้คุณแม่สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับประเด็นนี้เพิ่มเติมได้จากคุณหมอที่ไปฝากครรภ์
7. ถ้าแพ้ท้องมาก ๆ จนกินอาหารได้น้อยหรือไม่ได้เลย จะเป็นอันตรายกับลูกในท้อง
ไม่จริง : คุณแม่ส่วนใหญ่มักคิดว่าเมื่อตั้งครรภ์ต้องบำรุงด้วยการกินเยอะ ๆ เนื่องจากกลัวว่าทารกในครรภ์จะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้น้ำหนักตัวขณะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นมากเกินพอดีและเกิดภาวะอ้วนภายหลังคลอด แม้ขณะตั้งครรภ์ ร่างกายคุณแม่จะต้องการพลังงานจากสารอหารมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ แต่ควรควบคุมให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5-2 กิโลกรัมต่อเดือน หรือประมาณ 11.5-16 กิโลกรัม ตลอดการตั้งครรภ์ก็เพียงพอแล้ว และในคุณแม่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน ควรควบคุมให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 7-11 กิโลกรัม ตลอดการตั้งครรภ์
หน้าที่เข้าชม | 15,783,565 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,363 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |