พอท้องแล้วมดลูกก็จะโตขึ้นแล้วจะดึงรั้งปีกมดลูก เส้นเอ็นปีกมดลูกก็จะตึง มดลูกยิ่งโตเอ็นปีกมดลูกก็ยิ่งตึง ซึ่งปกติไม่ทำอะไรก็ตึงจะแย่อยู่แล้ว ช่วงท้องอ่อนๆคุณแม่ หลายๆคนจึงอาจมีอาการเสียดท้องน้อยทางด้านข้างได้บ่อยๆ ช่วงนี้หากล้มตัวลงนอน หรือลุกขึ้นจากท่านอนไม่ดีก็จะทำให้เจ็บเสียดท้องน้อยได้ง่าย
ท้องอ่อน นอนหงาย
ปกติตอนที่ไม่ท้องเวลาจะลงนอนก็หงายหลังลงไปเลย เวลาจะลุกขึ้นก็ลุกขึ้นมาทื่อๆ ตรงๆ เรียกว่าท่างัดขึ้นงัดลงก็แล้วกันนะครับ ท่าแบบนี้จะทำให้เกิดอาการเจ็บตึงปีกมดลูกมาก
ท่าสวยดูดีก็ต้องตะแคงลงนอน ตะแคงลุกขึ้น ที่เขาเรียกว่าท่านางเอกลิเกยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ เวลาลงนอนก็ต้องนั่งลงข้างเตียงก่อนแล้วเอามือวางไว้บนเตียง ตะแคงลงโดยใช้มือทั้งสองข้างช่วยรับน้ำหนัก จบท่านี้ก็จะนอนอยู่บนเตียงในท่านอนตะแคง จะนอนหงายก็ต้องพลิกตัวมาอีกที
ก่อนจะท้องก็อย่างที่บอกมดลูกมันมีขนาดแค่เท่าไข่ไก่ซึ่งมันก็หนักเพียงแค่ไม่กี่ขีด แต่พอตอนท้องมดลูกจะโตขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักของตัวมดลูกเอง น้ำหนักของเด็ก รก น้ำคร่ำ รวมๆแล้วหนักขึ้นเป็นหลายกิโล ดังนั้นตอนท้องอ่อนๆถ้านอนตะแคงข้างซ้าย มดลูกก็จะล้มถ่วงไปทางซ้ายแล้วไปดึงรั้งปีกมดลูกทางด้านขวาอีกที ถ้านอนตะแคงซ้ายทั้งคืน พอตื่นขึ้นมาก็จะเจ็บเสียดๆปีกมดลูกด้านขวา หากนอนตะแคงขวาทั้งคืนตื่นมาก็จะเจ็บเสียดท้องด้านซ้าย ตอนท้องอ่อนๆก็เลยให้นอนหงายธรรมดาสบายๆดีกว่า
ท้องแก่ นอนตะแคง
ระหว่างที่มดลูกโตขึ้นเรื่อยๆปีกมดลูกก็จะตึงขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน แต่พอมดลูกเริ่มโตสูงขึ้นมาในช่องท้อง เราจะก้มจะเงย มดลูกมันก็จะ ต้องก้มต้องเงยตามไปด้วย จะบิดซ้ายบิดขวา มดลูกมันก็ต้องบิดซ้ายบิดขวาตามไปด้วย อยู่เฉยๆปีกมดลูกมันก็ตึงอยู่แล้ว ดังนั้นตอนท้องคุณแม่ก็ต้องทำตัวให้ลืมเอว เวลานอนพลิกไปพลิกมาก็ให้พลิกไปทีเดียวทั้งตัว แล้วตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องบิด ขี้เกียจเหมือนเมื่อก่อนด้วยนะครับ บิดทีเดียวอาจทำให้เจ็บปีกมดลูกไปอีกหลายวันเลยก็ได้
มดลูกของคุณแม่ก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ จนประมาณ 28 สัปดาห์มดลูกจะโตจนยันด้านข้างของช่องท้องพอดี ตอนนี้มดลูกจะไม่ล้มไปล้มมาแล้ว จะนอนตะแคงซ้ายตะแคงขวาก็จะไม่ค่อยเจ็บปีกมดลูกเหมือนตอนท้องอ่อนๆ แต่ด้วยมดลูกที่โตขึ้นจะทำให้อึดอัดนอนลำบากมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อมดลูกโตขึ้นน้ำหนักของมันก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ถ้านอนหงายน้ำหนักของมดลูกที่มากขึ้นก็จะไปกดทับลงบนเส้นเลือดใหญ่ทางด้านหลัง ทำให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจน้อยลง เลือดก็ไหลออกไปเลี้ยงส่วนต่างๆน้อยลง โดยเฉพาะสมอง พอได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยลงก็จะทำให้มีอาการหน้ามืดเป็นลม แปลกนะครับมีแต่ยืนเป็นลม ต้องให้นอนพัก แต่นี่นอนแล้วเป็นลมพอลุกก็จะดีขึ้น
ดังนั้นตอนท้องโตๆแล้วก็ควรนอนตะแคง จะโตแค่ไหน?..เอาเป็นว่า หลังจาก 28 สัปดาห์แล้วถ้านอนตะแคงจะไม่เจ็บปีกมดลูกมากนัก ให้นอนตะแคงเป็นหลักก็แล้วกัน
นอนตะแคง ทับลูกรึเปล่านะ
คุณแม่หลายคนอาจสังเกตว่าลูกมักจะดิ้นเยอะตอนที่นอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่ง บาง ทีตะแคงซ้ายดิ้นเยอะ ตะแคงขวาดิ้นน้อย หรืออาจจะตะแคงซ้ายดิ้นน้อย ตะแคงขวาดิ้น เยอะ เลยสงสัยว่าไปนอนทับลูกหรือเปล่า
ลูกน่ะเขานอนอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ถุงน้ำคร่ำก็จะมีน้ำคร่ำบรรจุอยู่ โดยน้ำคร่ำที่ว่านี้จะมีปริมาตรคงที่ตลอด ถ้านอนทับด้านนี้ก็จะไปปูดออกด้านโน้น เนื้อที่ที่ลูกอาศัยอยู่นั้นจะคงที่ตลอดไม่เปลี่ยนแปลง นอนตะแคงจึงไม่ได้เป็นการนอนทับลูก
ปกติแล้วเด็กที่เกิดใหม่ๆก็มักจะชอบนอนคว่ำมากกว่านอนหงาย ถ้านอนหงายแล้วจะรู้สึกว่ามันโล่งๆดูไม่มั่นใจยังไงชอบกล เด็กจะมีอาการผวาบ่อยๆ เด็กในท้อง ก็เหมือนกันนะครับ เขาชอบคว่ำมากกว่าหงาย แล้วเด็กในท้องก็มักจะนอนตะแคงกับตัวแม่ อาจหันหน้าไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่โดยมากกว่าครึ่งหลังจะอยู่ทางด้านซ้าย หันหน้าไปด้านขวา ถ้าแม่นอนตะแคงเอาขวาลงเด็กในท้องก็จะอยู่ในท่านอนคว่ำ ก็ถูกใจเขาเลย ไม่รู้สึกว่าลูกดิ้นเยอะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหมุนตัวไปตะแคงเอาซ้ายลง ลูกก็อยู่ในท่านอน หงายเขาก็จะดิ้นมากกว่า ซึ่งก็ไม่มีผล ไม่มีอันตรายต่อลูกแต่อย่างใด
โดย: น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
หน้าที่เข้าชม | 15,779,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,652,118 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |