สำหรับสาเหตุที่ทำให้ลูกพิการได้มีดังนี้
1. อายุของคุณแม่ คุณแม่ที่มีอายุเกิน 35 ปี ไม่ว่าการตั้งครรภ์ครั้งที่เท่าไรก็ตาม จะมีความเสี่ยงของการได้ลูกปัญญาอ่อนชนิดกลุ่มอาการดาวน์ (Down's Syndrome) และสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น
2. โรคประจำตัวหรือโรคแฝงของคุณแม่ เช่น ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, ไทรอยด์ ซึ่งก็มักจะพบได้บ่อยขึ้นถ้าคุณแม่มีอายุเกิน 35 ปี
3. สิ่งแวดล้อมของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพที่เป็นงานหนัก, งานเครียด, งานที่เสี่ยงต่อมลภาวะหรือสารพิษ สภาพสังคม ความเป็นอยู่ การกินดีอยู่ดีและความสุขสบายของคุณแม่
ทางที่ดีคุณแม่จึงควรเริ่มมีลูกตั้งแต่อายุไม่เกิน 30 ปี ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ และวางแผนให้เห็นตัวเองสุขสบายตามอัตถภาพ ทั้งในช่วงการตั้งครรภ์และช่วงเลี้ยงดูลูก ซึ่งคุณพ่อและคนอื่นๆในครอบครัวควรมีบทบาทเข้ามาช่วยคิดและช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ
แล้วถ้าเมื่อไรที่ตอบตัวเองได้ว่าพร้อมและมองเห็นตัวเองในบทบาทของภรรยาและแม่ของลูกชัดเจนกว่าบทบาทของผู้หญิงเก่งที่มุ่งมั่นเรื่องงาน คุณแม่ก็จะเริ่มต้นหาข้อมูลในการเตรียมตัวให้ลูกสมบูรณ์ แข็งแรงได้ โดยไม่ใช่เหตุบังเอิญนะคะ
“หัวใจ” ลูก 9 เดือนในท้อง
ด้วยเดือนแห่งความรัก หัวใจเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงความรักระหว่างแม่ลูก แล้วด้วยหัวใจเป็นอวัยวะที่มีความพิเศษ มีแต่ตัวจริงไม่มีตัวสำรองแทนได้ จึงควรไปทำความรู้จักกันค่ะ
หัวใจ...อวัยวะชิ้นสำคัญ
1. หัวใจ...เป็นอวัยวะเดี่ยวที่ไม่มีสำรองเหมือนอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ไต และตับ ดังนั้น ถ้าเกิดการชำรุดเสียหาย เช่นรั่ว หรือตีบ ก็จะเป็นอันตรายได้
2. หัวใจ....ทำงานเหมือนเครื่องปั๊มน้ำที่มีความพิเศษคือ รับเลือดดำที่เปรียบเหมือนน้ำเสียไปฟอกที่ปอด ในขณะเดียวกันก็ส่งเลือดแดงที่เหมือนน้ำสะอาดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เบ็ดเสร็จ 2 ระบบ ในอวัยวะเดียวกัน แล้วหน้าที่ดังกล่าวจะเริ่มต้นตั้งแต่ชีวิตตัวอ่อนในครรภ์
แล้วด้วยที่เราต้องใช้หัวใจดวงเดียวตราบจนมีชีวิตอยู่ แล้วเป็นการทำงานอย่างที่ไม่มีเวลาหยุดพัก ด้วยเหตุนี้หัวใจจึงมีโครงสร้างกล้ามเนื้อชนิดพิเศษที่แข็งแรงมาก มีหลอดเลือดแตกแขนงมากมายไปเลี้ยงกล้ามเนื้ออย่างทั่วถึงเพื่อทำหน้าที่อย่างทรหดอดทดนี้ได้
การเติบโตของ “หัวใจลูก” ในท้องแม่
4 สัปดาห์....หัวใจเริ่มพัฒนาถือเป็นอวัยวะชุดแรกที่ตัวอ่อนทารกจะริ่มพัฒนาขึ้นค่ะ (หรือในช่วง 6 สัปดาห์นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย) ซึ่งขณะนั้นตัวอ่อนจะประกอบด้วยเซลล์เพียง 150 เซลล์เท่านั้น แต่จะมีการแบ่งชั้นเนื้อเยื่อออกเป็น 3 ชั้น คือ นอก กลาง และใน เนื้อเยื่อชั้นกลางนี้เอง จะมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นอวัยวะที่มีความพิเศษในด้านความทนทานในการทำงาน คือ หัวใจ ไต ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ กระดูก กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นนั่นเอง จากนั้นใน 2 สัปดาห์ต่อมา หัวใจจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตามโครงสร้างที่กำหนดไว้แล้วในแบบแผนภูมิของยีนส์
การตั้งครรภ์ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่คุณแม่ต้องระวังมากที่สุดในการดูแลตนเอง เพราะถ้าได้รับเชื้อโรคบางอย่าง เช่น ไวรัสหัดเยอรมัน หรือคุณแม่ที่เป็นเบาหวานและคุมน้ำตาลได้ไม่ดี หรือไม่รู้ตัวว่าเป็นก็ตาม หรือสูบบุหรี่ หรือกินยาบางอย่างที่เป็นอันตราย ก็จะเป็นผลให้ลูกมีหัวใจพิการได้
6 สัปดาห์....จะเริ่มเห็นหัวใจของลูกเต้นจากการดูด้วยอุลตร้าซาวนด์ ซึ่งช่วงนี้ตัวอ่อนจะตัวเล็กมากวัดได้จากหัวถึงก้นเพียง 0.08 -0.16 นิ้วฟุต เท่านั้น
10 สัปดาห์.... หัวใจจะมีโครงสร้างเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเรียกจาก ตัวอ่อน เป็น ทารกแล้ว
11 สัปดาห์....ฟังเสียงหัวใจทารกได้ด้วยการใช้เครื่อง doppler sound wave stethoscope ซึ่งเป็นเครื่องมือฟังเสียงหัวใจทารกได้ ตอนนี้ทารกจะยาว 1.75 - 2.4 นิ้วฟุต
28 สัปดาห์ – 38 สัปดาห์ .... หัวใจเริ่มมีการตกแต่งส่วนประกอบปลีกย่อยของหัวใจจนเสร็จสมบูรณ์ แล้วจากนั้นหัวใจก็จะเริ่มขยายขนาดให้เต็มโครงสร้างเมื่อครบกำหนดคลอด
จากนั้นหัวใจจะมีหน้าที่ต่อเนื่องในระบบไหลเวียนของเลือด ตั้งแต่ในครรภ์ตลอด 9 เดือน ซึ่งหัวใจทารกจะมีอัตราการเต้นเร็วมาก เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่เพราะมนุษย์จะมีการเติบโตที่เร็วที่สุด ในช่วงชีวิตตอนอยู่ในครรภ์คุณแม่ จะเต้นประมาณ 140 -160 ครั้งต่อนาที และจะลดลงตามลำดับในระยะหลังคลอด ตามอัตราการเจริญเติบโตตามวัย ความสมบูรณ์ของหัวใจและความแข็งแรงของสุขภาพ
หัวใจเป็นอวัยวะที่ทำงานตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่และไปจนตลอดชีวิตอย่างไม่เคยได้หยุดพักและไม่มีอวัยวะสำรองใช้เหมือนอวัยวะอื่น จะให้ดีคุณแม่ควรดูแลรักษาหัวใจลูกตั้งแต่อยู่ในคุณแม่ให้สมบรูณ์แข็งแรงที่สุดนะคะ
Cr: จาก : นิตยสาร Modern Mom
หน้าที่เข้าชม | 15,779,387 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,652,185 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |