สาเหตุที่คนท้อง "แพ้ท้องหนัก"
แพ้ท้องยันไม่ทันฟ้าสว่าง! เป็นแบบนี้ทุกวันไม่ไหวแน่ๆ แพ้ท้องหนักหน่วงเป็นเพราะอะไร? มาดูกันค่ะ
***ช่วงตั้งท้องแรกๆ แม่คนไหนแพ้ท้องแบบหนักหน่วงบ้างคะ? บางคนถึงกับไม่สามารถกินอะไรได้เลย ได้กลิ่นอะไรนิดหน่อยก็เริ่มคลื่นไส้ อาการแพ้ท้องที่หนักจนเกินจะรับไหวนอกจากเป็นที่ปัจจัยภายนอกแล้ว สภาพร่างกายก็คือหัวใจสำคัญที่ทำให้คุณแม่แพ้ท้องจนเอาไม่อยู่ค่ะ มาดูสาเหตุว่าทำไมอาการแพ้ท้องถึงหนักจนผิดปกติกันค่ะ***
ทำไมอาการแพ้ท้อง “ถึงหนักหน่วง” ?
สาเหตุที่ 1 ฮอร์โมนที่พุ่งสูง!
ตัวแปรในร่างกายหลักๆที่ทำให้คนท้องแพ้ท้องมากขึ้น เป็นเพราะฮอร์โมนโกดาโนโทรปินและฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) พุ่งทยานสูง ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ถ้าผลิตมากจนเกินไปจะยิ่งทำให้ร่างกายคลื่นไส้ได้ง่ายๆค่ะ เป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างขึ้นจากการที่รังไข่ถูกปฏิสนธิแล้วเพื่อใช้กระตุ้นรังไข่จากการสร้างรกนั่นเองค่ะ
สาเหตุที่ 2 คุณแม่ท้องว่าง!
อย่าปล่อยให้ท้องว่าง! อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่แพ้ท้องแบบหนักหน่วงจนไม่สามารถทานอะไรได้เลย ท้องว่างจะยิ่งทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นจนคลื่นไส้ได้ง่ายๆค่ะ ดังนั้นวิธีที่ช่วยได้แนะนำคุณทานอาหารง่ายๆ อย่างขนมปังหรือแครกเกอร์ตามด้วยน้ำนมอุ่นๆ นอกจากให้ท้องอิ่มตัวขึ้นมาแล้วยังเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและสบายท้องค่ะ
สาเหตุที่ 3 ร่างกายขาดน้ำ!
น้ำกับคนท้องเป็นของคู่กันค่ะ ถ้าแม่ขาดน้ำการสร้างอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆในท้องก็ทำให้มีปัญหาได้ ร่วมถึงอาการแพ้ท้องด้วยค่ะ ยิ่งขาดน้ำเท่าไหร่อาการคลื่นไส้อาเจียนก็มากขึ้นเช่นกันค่ะ ดังนั้นเป็นคุณแม่แล้วควรมีขวดน้ำส่วนตัวไว้ข้างๆตลอด คุณจะได้มีเวลาจิบน้ำบ้างเล็กน้อย ถ้าเริ่มมีอาการแพ้ท้องค่ะ
วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้องจาก “ภายนอก”
นอกจากสภาพร่างกายของเราที่ดูไม่สู้ดีแล้ว ต้องเพิ่มตัวช่วยป้องกันการแพ้ท้องอีกค่ะ!
1. ต้องไม่อยู่ใกล้สิ่งที่มีกลิ่นแรง เช่น น้ำหอม น้ำยาล้างต่างๆ หรืออาหารที่มีกลิ่นเหม็นคาวมากๆ
2. ห้ามเคลื่อนไหวตัวไว โดยเฉพาะตอนที่เพิ่งตื่นอนค่ะ ค่อยลุกช้าๆ เพราะการทำไวจะทำให้คุณแม่เวียนศีรษะและอาเจียนได้
3. พักผ่อนที่เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนน้อยแพ้ท้องง่ายนะคะ! ยิ่งตอนท้องต้องนอนยาวๆไปเลย 8-10 ชั่วโมงต่อวันค่ะ
***เอาชนะอาการแพ้ท้องได้! ต้องทราบสาเหตุของอาการกันค่ะ และดูสุขภาพร่างกายของตัวเองให้เต็มที่! ถ้าคุณแม่มีอาการแพ้ท้องติดต่อกันยาวนานจนไม่สามารถทานอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว นับว่าเป็นสัญญาณที่อันตรายควรรีบพบแพทย์ให้ไวที่สุดนะคะ!***
หน้าที่เข้าชม | 15,783,791 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,589 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |