"คนที่บ้านติดบุหรี่ แต่ไม่ได้สูบในบ้านหรือใกล้ตัวลูก แล้วกลิ่นบุหรี่ที่ติดอยู่ตามตัวหรือในรถจะเป็นอันตรายต่อลูกวัยทารกหรือเปล่า" เป็นอันตรายแน่นอนค่ะ มีอันตรายต่อสุขภาพไม่ยิ่งหย่อนกว่าการสูบเอง (active smoking) โดยเฉพาะในเด็กที่อยู่ในครรภ์และวัยทารก ความรุนแรงจะขึ้นความระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่ผู้ได้รับสูดหายใจเข้าไป หากวัดระดับสาร cotinine ในเลือดได้ตั้งแต่ 1 ng/ml ขึ้นไปถือว่ามีอันตรายต่อสุขภาพ
ทารกมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆตามมามากขึ้น เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคหูอักเสบ โรคภูมิแพ้ ภาวะ SIDS (sudden infant death syndrome)การเจริญเติบโตช้า เป็นต้น
เรามักคิดว่ามีเฉพาะกลิ่นบุหรี่เท่านั้นที่ตกอยู่ในสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เบาะรถ พรม โซฟา ผ้าม่าน แต่อันที่จริงแล้วมีสารเคมีที่เป็นอันตรายจำนวนมากตกค้างอยู่ด้วย ลูกจึงไม่ได้หายใจเอาเฉพาะกลิ่นเข้าไปแต่ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจากบุหรี่ เข้าไปด้วยค่ะ
แน่นอนว่าการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อผู้สูบและบุคคลใกล้ชิด เพราะผู้สูบบุหรี่ไม่ได้สูบควันบุหรี่เข้าไปทั้งหมด แต่เขาแค่สูบควันบุหรี่บางส่วนเข้าไปแล้วพ่นควันบุหรี่เกือบทั้งหมดออกมา อันตรายที่มีจากควันบุหรี่นั้นมีมากมาย ยิ่งถ้าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นต้องมาสูดดมควันบุหรี่ละก็ จะมีผลร้ายแรงต่อทารกในครรภ์จนถึงขั้นทำให้ทารกพิการได้เลยทีเดียวค่ะ
ควันบุหรี่ไม่ได้มีผลแต่เฉพาะทารกในครรภ์เท่านั้น แต่ควันบุหรี่มีผลถึงเชื้ออสุจิในตัวของคุณพ่อด้วย เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เชื้ออสุจิไม่แข็งแรง ทำให้โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ก็ลดน้อยลง หรือหากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ควันบุหรี่ สารนิโคตินที่อยู่ในควันบุหรี่จะเข้าไปสะสมในร่างกาย และทำให้ทารกในครรภ์พิการ หรือคลอดก่อนกำหนดได้
นอกจากนั้นมลภาวะอื่นๆ ที่ได้รับจากการเดินทางไปนอกบ้าน เช่น ควันรถจากท่อไอเสีย, ฝุ่นละอองต่างๆ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็ควรจะหาทางป้องกันให้ดี หากเป็นไปได้ควรติดเครื่องฟอกอากาศในรถและหลีกเลี่ยงการเจอกับสภาวะมลพิษอื่นๆ หรือหากไม่สามารถติดเครื่องฟอกอากาศได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วปิดจมูกบ่อยๆ เมื่อต้องเดินทาง
หน้าที่เข้าชม | 15,783,565 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,363 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |