9 ยาปลอดภัย ที่คนท้องควรมีติดบ้าน
ฉันดันมาป่วยตอนท้องแบบนี้! ไหวแน่นะวิ? ปวดหัว ตัวร้อน ไอ จาม จะทำอย่างไร? 9 ยาปลอดภัยที่คนท้องต้องมีติดบ้านไว้ มาดูกันค่ะ
****แม่ท้องถ้าป่วยแล้วจะรักษาอาการด้วยตัวเองได้ไหม ? คำตอบคือได้แน่นอนค่ะ! ถ้าเราใช้ยาที่ปลอดภัยสำหรับคนท้องก็บรรเทาอาการป่วยได้ในเบื้องต้น ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรติดไว้จะมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ***
กลุ่มยาแก้ปวด
กรณีที่คุณแม่มีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีไข้อ่อนๆ ยาแก้ปวดและลดไข้ที่ปลอดภัย ได้แก่ ยาพาราเซตามอล ยาไทลินอลและยาอะเซตตามิโนเฟน ซึ่งถ้าใครมีประวัติแพ้ยาก็พาราเซตามอลก็ควรงดยาตัวนี้ไปก่อนนะคะ ถ้าทานยาขนาดเม็ด 650 มิลลิกรัม ให้ทานซ้ำทุก 8 ชั่วโมง จนกว่าอาการไข้จะลดนะคะ
กลุ่มยาลดน้ำมูกและคัดจมูก
สำหรับยาแก้อาการคัดจมูกและน้ำมูลมียาตัวเดียวที่ปลอดภัยสำหรับแม่ท้อง คือ ยาคลอเฟนนิรามีน ถือว่าปลอดภัยสำหรับการตั้งครรภ์อ่อนๆ 3 เดือนแรกมากค่ะ หากเริ่มมีอาการน้ำมูกและไข้อ่อนๆ ก็สามารถทานยาตัวคู่กับยาพาราเซตามอนเพื่อลดอาการนี้ได้ในเบื้องต้น จนกว่าจะหายดีได้ค่ะ
กลุ่มยาแก้อาการไอแห้งๆ
อาการไอถ้าปล่อยไว้นานในช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ 3 เดือนแรก อาจทำให้คุณแม่เสี่ยงต่ออาการแท้งได้ค่ะ ถ้าคุณแม่มีอาการไอแห้งแนะนำใช้ ยากลุ่มเด็กซโตนและเมโทรฟาน เป็นยาที่ปลอดภัยกับคุณแม่ท้องค่ะ ซึ่งยากลุ่มนี้แนะนำถ้าไปซื้อที่ร้านยาต้องถามเภสัชก่อนนะคะ ว่ามีเคมีตัวอื่นๆผสมด้วยไหมเพราะเป็นอันตรายกับลูกในท้องได้ ควรแจ้งเภสัชว่าจัดยากลุ่มนี้สำหรับคนท้องนะคะ
กลุ่มยาละลายเสมหะ
ยาละลายเสมหะที่ดีและปลอดภัยสำหรับคนท้องได้แก่ ยากลุ่ม Acetylcysteine และ Bromhexine เป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับคนท้องค่ะ ในกรณีที่มีอาการเสมหะก็ทานได้เลย และกินร่วมกับดื่มน้ำอุ่นๆ จะยิ่งช่วยละลายเสมหะด้วยนะคะ
กลุ่มยาแก้อักเสบ
ยาปฏิชีวนะสำหรับทั้งการอักเสบติดเชื้อทางเดินหายใจ ช่องปาก ทางช่องหู ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ทางช่องคลอด และทางผิวหนัง ยาที่ปลอดภัยสำหรับคนท้องที่สุดคือยากลุ่มเพนนิซิลลินค่ะ แม้จะปลอดภัยที่สุดแต่ก็ไม่ควรปริมาณที่มากและซ้ำบ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้มีผลกระทบกับลูกในท้องได้ค่ะ
***สรุป 9 ยาที่แม่ท้องทานได้ ได้แก่ 1.ยาพาราเซตามอล 2.ยาไทลินอล 3.ยาอะเซตตามิโนเฟน 4.ยาคลอเฟนนิรามีน 5.ยากลุ่มเด็กซโตน 6.ยากลุ่มเมโทรฟาน 7.ยากลุ่ม Acetylcysteine 8.ยากลุ่ม Bromhexine 9.ยากลุ่มเพนนิซิลลิน
เท่านี้แม่ท้องก็ดูแลอาการป่วยได้เบื้องต้นโดยไม่มีผลอันตรายกับลูกในท้อง ถ้าคุณแม่มีอาการที่หนักขึ้นแม้จะบรรเทาด้วยยากลุ่มนี้แล้ว ต้องรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องนะคะ***
“ดูแลสุขภาพตัวเอง เพื่อสุขภาพของลูกในครรภ์”
หน้าที่เข้าชม | 15,779,286 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,652,084 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |