ไม่อยากแท้ง ห้ามทำแบบนี้!!

**คำเตือน!! พฤติกรรมนี้อาจทำให้เสี่ยงแท้งง่าย ...อย่าทำแบบนี้ ถ้าไม่อยากแท้ง! จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ**

    ถึงแม้ว่า ปัจจัยเสี่ยงแท้งนั้นเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ แต่การดูแลตัวเองของแม่ท้องที่ไม่ถูกต้องนั้น ก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เสี่ยงแท้งได้นะคะ! มาดู ไม่อยากแท้ง ห้ามทำแบบนี้ กันเลย

1.ห้ามสัมผัสหรือทำความสะอาดขี้แมว!!

คุณแม่ท้องอาจจะไม่เคยรู้ว่าในลำไส้ของแมวจะมีเชื้อโรคหรือพยาธิที่เป็นตัวการให้เกิดโรค ท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) หรือภาษาชาวบ้านจะเรียกว่าโรคขี้แมว โรคนี้อาจจะเข้าสู่ร่างกายของแม่ท้องได้ หากไปโดนหรือสัมผัสกับขี้แมวและไม่ทำความสะอาดให้ดี เชื้ออาจจะเข้าสู่ร่างกายของแม่และส่งผ่านทางรกไปสู่ลูกน้อยในครรภ์...ช่วงที่อันตรายที่สุดคือการติดเชื้อในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้ลูกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในท้อง หรืออาจส่งผลต่อลูกน้อยหลังคลอดออกมาแล้ว 6-7 เดือน เด็กที่ติดเชื้ออาจจะตาบอด ปัญญาอ่อน มีปัญหาด้านการเรียนรู้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อนี้จะต้องมีอาการรุนแรง แม้ทารกบางคนที่ติดเชื้ออาจจะไม่พบอาการผิดปกติก็ได้ แต่ก็คงไม่มีคุณแม่คนไหนอยากจะเสี่ยง ดังนั้น การป้องกันไว้ก่อนจึงเป็นการดีที่สุด

2.นอนไม่พอ

คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรนอนดึก และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพราะมีงานวิจัยพบว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่นอนน้อยกว่าวันละ 5 ชั่วโมงจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ เช่น ความดันโลหิตสูงที่เป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ และยังทำให้คุณแม่ท้องเหนื่อยง่าย เครียดง่ายอีกด้วยนะคะ

3.สูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ เป็นอีกสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรงดเว้นอย่างเด็ดขาด เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งที่จะทำให้เด็กมีอาการสมาธิสั้น และการสูบบุหรี่มากยังทำให้คุณแม่มีโอกาสแท้งและคลอดก่อนกำหนดมากขึ้น ลูกที่ออกมามักตัวเล็ก น้ำหนักน้อย หัวใจเต้นเร็วกว่าเด็กปกติ บางครั้งอาจทำให้เกิดความพิการที่รุนแรงได้ รวมถึงควันบุหรี่มือสองจากคนในบ้านด้วยนะคะ

4.ทำงานบ้านหนัก

เป็นแม่ท้อง นั่งๆนอนๆก็เบื่อใช่มั้ยคะ อยากลุกขึ้นมาปัดกวาดเช็ดถูบ้านบ้าง การกวาดพื้นทั่วๆไป สามารถทำได้ค่ะ แต่การสัมผัสสารเคมี มีสารเคมีอันตรายหลายชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งลูกได้นะคะ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ ยาฆ่าแมลง สารระเหยต่างๆ 

5.ออกกำลังกายหนัก

การออกกำลังกายหลายชนิดก่อให้เกิดแรงกระแทก เช่น การกระโดด การเคลื่อนไหวที่ต้องใช้ความรวดเร็ว แต่ออกกำลังกายทั่วไปสามารถทำได้นะคะ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค โยคะ แต่ต้องไม่หนักจนเกินไปนั่นเอง

6.ยกของหนัก

ควรจะระวังในเรื่องของการยกของหนักหรือเอื้อมมือหยิบของจากที่สูง ๆ ซึ่งอาจจะทำให้หกล้มได้ง่าย การยกของ ก้มๆเงยๆ รวมถึงไม่ควรขึ้นบันไดสูง ๆ หรือเดินขึ้นตึกสูง ๆ หลายชั้นรวดเดียวก็ห้ามเช่นกันนะคะ

7.กินยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์

ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น และต้องบอกคุณหมอด้วยทุกครั้งว่า กำลังตั้งครรภ์อยู่และบอกอายุครรภ์ด้วยทุกครั้ง หากต้องใช้ยาอย่างเร่งด่วน ควรอ่านเอกสารกำกับยาให้ชัดเจนก่อนใช้ทุกครั้ง ว่าไม่มีข้อห้ามใช้สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะยาสามัญประจำบ้านหลายชนิด ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ คุณแม่จึงควรใช้ยาเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้นค่ะ

**นอกจากนี้แล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคืออารมณ์ของแม่ท้องนะคะ ไม่ควรเครียดหรือคิดมากจนเกินไปเพราะไม่ดีกับลูกในท้องอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ**

“ทำทุกสิ่งเพื่อลูก ผูกสัมพันธ์ด้วยหัวใจ”