7 อาหารทำร้ายทารกในครรภ์

**เรากินอะไร ลูกก็จะได้รับแบบนั้นค่ะ ดังนั้นอาหารอะไรที่คุณแม่ท้องไม่ควรกินเพราะอาจทำร้ายลูกในท้องได้ ขอบอกเลยว่าบางอย่างคุณแม่เองก็อาจคิดไม่ถึง มาดูกันค่ะ**

    นอกจากโภชนาการบำรุงครรภ์ที่ควรใส่ใจแล้ว อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคุณแม่ก็ต้องรู้เช่นกันนะคะ จะได้ไม่เผลอทานค่ะคุณแม่ มาดูกันเลย

1.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

มาม่าไวไว ของโปรดเลยใช่มั้ยคะ แค่คิดก็กลืนน้ำลายแล้ว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น มีโซเดียมและผงชูรสมากเกินกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับ หากรับประทานเป็นประจำหรือบ่อยครั้งมากเกินไป ย่อมส่งผลไม่ดีกับทารกในครรภ์แน่ ๆ เพราะส่วนเกินจากโซเดียมนั้น ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดต่ำลง ส่งผลให้ร่างกายบวม ทำให้เกิดการคั่งในสมองของเด็ก เมื่อเด็กโตขึ้น อาจจะส่งผลให้เด็กเป็นคนปัญญาอ่อนได้ค่ะ 

2.ชีสสด

ปกติแล้วชีสจะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินหลายชนิด แต่ชีสสด มอสซาเรล่า รีคอตต่า ชีสนมแพะ อาจมีโอกาสเป็นที่อยู่ของเชื้ออีโคลายและลิสเทอริโอซิส ซึ่งเชื้อโรคทั้งสองชนิดนี้เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์และตัวคุณแม่เองค่ะ

3.เนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารแช่แข็ง

เช่น ไส้กรอก โบโลน่า แฮม รวมถึงอาหารกระป๋องและอาหารสำเร็จรูป เป็นอาหารที่มีการใส่สารกันเสีย แต่งสี และกลิ่นสังเคราะห์ค่อนข้างมากค่ะ ซึ่งสารเหล่านี้ก่อให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์ของคุณแม่สูงมาก ดังนั้นสำหรับคุณแม่ท้อง แนะนำให้ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ค่ะ

4. ห้ามทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มั่นใจแหล่งที่มา

เช่น หนูนา ผัดกบ แมลงทอด คุณแม่ท่านไหนที่ชอบทาน งดไปก่อนนะคะ เพราะเราไม่สามารถทราบแหล่งที่มาว่าสะอาดแค่ไหน มีปนเปื้อนสิ่งไม่สะอาด เชื้อโรค พยาธิอะไรหรือไม่ เสี่ยงมากๆที่อาจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวแม่ท้องและลูกน้อยได้ค่ะ

5.น้ำอัดลม โซดา

การทานน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีโซดามากนั้น จะทำให้กระเพาะของคุณแม่มีแก๊สมาก ยิ่งมดลูกใหญ่เบียดกระเพาะ ยิ่งทำให้อึดอัด ไม่สบายตัว หงุดหงิด ส่งผลต่ออารมณ์คุณแม่ และแน่นอน ว่าส่งผลต่อลูกน้อยในท้องด้วยเช่นกัน หากอยากทาน ให้ทานนิดๆหน่อยๆให้สดชื่น พอหายอยากก็พอค่ะ ไม่แนะนำให้ทานบ่อยๆนะคะ 

6.อาหารที่ปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ

ถึงแม้ว่า เจ้าปลาส้ม กุ้งแช่น้ำปลา ไข่ลวก จะยั่วยวนคุณแม่ให้น้ำลายสอมากแค่ไหน แต่ก็ต้องอดใจไว้นะคะ เพราะของสุกๆดิบๆนี้ หากไม่มีความสดมากพอ จะทำให้มีพยาธิหรือปรสิตที่ส่งผลร้ายต่อลูกในครรภ์ได้นะคะ ควรเลี่ยงไปกินอาหารปรุงสุกดีกว่าค่ะ 

7.อาหารที่คุณแม่แพ้

โดยเฉพาะช่วงแพ้ท้อง ที่คุณแม่อยากกินนู่นอยากกินนี่ รวมถึงอาหารที่คุณแม่แพ้ด้วยเช่นกัน ต่อให้คุณแม่ต้องการทานอาหารที่ตัวเองแพ้มากแค่ไหนก็ตาม ควรยับยั้งและอดทนให้ได้มากที่สุดนะคะ เพราะการทานอาหารที่ตัวเองแพ้อาจทำให้ลูกในครรภ์มีโอกาสแพ้เพิ่มมากถึง 60% เลยทีเดียวค่ะ

**อย่าพึ่งคิดว่าทานนิดทานหน่อยไม่เป็นไรนะคะ อาหารบางอย่างอาจก่อให้เกิดผลเสียที่ยากจะแก้ไข ดังนั้นเพื่อสุขภาพลูกที่ดีที่สุดที่แม่จะให้ได้ คือการหลีกเลี่ยงสิ่งอันตรายต่อลูกตั้งแต่ตั้งครรภ์ค่ะ**

“ใส่ใจทุกคำที่ทาน เพื่อพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์”