อาการที่บอกว่า ต้องไปคลอด!

*****คุณพ่อๆ! อย่ารอช้า.. รีบพาคุณแม่ไปหาหมอให้ไว! อาการอะไรบ้างที่กำลังบอกว่าต้องไปคลอด ? มาดูกันค่ะ 

                ครอบครัวใครบ้างคะที่กำลังจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ คุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดตื่นเต้นกับเจ้าตัวน้อยที่ใกล้ลืมตามาดูโลกใช่ใหมคะ เอาละ! อาการอะไรบ้างที่เป็นสัญญาณว่าใกล้คลอด มาดูกันค่ะ***

1.อาการเจ็บท้องต่อเนื่อง

                เริ่มมีอาการปวดๆ มีอาการตึงหรือบีบรัดในครรภ์ใช่ใหมคะ โดยลักษณะการปวดจะเป็นการปวดตั้งแต่มดลูกลงไปยังก้น หรือปวดจากก้นขึ้นมามดลูกสลับกันไปค่ะ อาการดังกล่าวเกิดจากมดลูกเริ่มแข็งตัวและหดตัวค่ะ เพื่อเตรียมสำหรับการดันทารกออกมาจากช่องคลอดเมื่อถึงกำหนดคลอดค่ะ

โดยอาการเจ็บจะติดต่อกันนานถึง 5-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยจะเริ่มจากเจ็บน้อยไปจนถึงเจ็บขั้นรุนแรง จนทำให้คุณแม่ต้องแบ่งทารกออกมาจากช่องคลอดในที่สุดค่ะ

2.มีมูกปนเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด

                นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่าใกล้คลอดนั่นเองค่ะ โดยมูกจะมีลักษณะสีใส สีน้ำตาล สีชมพูหรืออาจเป็นสีแดงเหมือนเลือด  มีความหนืดและเหนียวข้นคล้ายตกขาว

เมื่อมดลูกเกิดการขยายตัวอย่างเต็มที่ร่างกายของคุณแม่จะทำกลไลการป้องกันแบคทีเรียและเชื้อโรคเพื่อไม่ให้เข้ามดลูกค่ะ โดยร่างกายจะสร้างเมือกปกคลุมบริเวณปากมดลูก เมื่อถึงเวลาใกล้คลอดเมือกดังกล่าวก็จะสลายตัวออกมาจากช่องคลอดนั่นเองค่ะ

3.น้ำคร่ำเดิน

                น้ำคร่ำจะมีลักษณะคล้ายปัสสาวะเลยทำให้คุณแม่หลายอาจจะสับสนได้ค่ะ ซึ่งน้ำคร่ำนั้นจะมีลักษณะเป็นของเหลวสีใส ไม่มีกลิ่น และอั้นไม่อยู่ค่ะ โดยอาการดังกล่าวเกิดจากถุงน้ำคร่ำที่ห่อหุ้มตัวทารกเกิดการฉีกขาดหรือแตกนั่นเองค่ะ เพื่อเตรียมพร้อมให้ทารกออกจากท้องคุณแม่ หากน้ำคร่ำเดินแล้วให้พบสูติแพทย์ทันทีค่ะ เพราะทารกเมื่อไม่มีถุงน้ำคร่ำห่อหุ้มตัวจะทำให้ทารกติดเชื้อได้ง่ายค่ะ ดังนั้นหลังน้ำคร่ำเดินแพทย์จะทำการคลอดให้ภายใน 1-2 วันค่ะ โดยคุณแม่สามารถใส่ผ้าอนามัยระหว่างการเดินทางไปยังโรงพยาบาลได้ค่ะ

4.ท้องเคลื่อนลงต่ำ

                เป็นอาการที่ถือว่าเห็นได้ชัดเจนที่สุดค่ะ โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนการคลอด ท้องจะมีลักษณะยื่นออกมาเกินกว่าปกติและเคลื่อนต่ำลงค่ะ เพราะทารกได้เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่าบริเวณกระดูกเชิงกรานเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดนั่นเองค่ะ ทั้งนี้เมื่อมดลูกลงต่ำกว่าบริเวณกระบังลมก็จะทำให้คุณแม่หายใจได้อย่างสะดวกมากขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ

5.ปวดหลังและเป็นตะคริว

                เมื่อครรภ์เคลื่อนมาในตำแหน่งที่ต่ำลงจะทำให้คุณแม่มีอาการปวดหลังได้ค่ะ และการเกิดอาการเป็นตะคริวบ่อยครั้ง เกิดจากการทำงานการหมุนเวียนเลือดภายในร่างกายที่ไม่ปกติค่ะ เพราะเมื่อทารกเคลื่อนตัวลงมาต่ำทำให้หัวของทารกกดทับลงบริเวณเส้นเลือดดำในอุ้งเชิงกรานค่ะ ทำให้เลือดในร่างกายไหลเวียนได้ไม่เต็มที่จึงทำให้เกิดอาการเป็นตะคริวได้ค่ะ รวมถึงหากคุณแม่ดื่มน้ำน้อยน้ำในร่างกายไม่เพียงพอก็ทำให้คุณแม่เป็นตะคริวได้ง่ายเช่นกันค่ะ

6.ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง

                คุณแม่อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ การถ่ายอุจจาระเป็นกลไลของร่างกายที่ช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย เพื่อเตียมพร้อมก่อนการทำคลอดค่ะ โดยในบางช่วงอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วยค่ะ ซึ่งอาการดังกล่าวไม่ต้องวิตกกังวลไปนะคะ หากมีอาการปวดอุจจาระสามารถขับถ่ายได้ปกติไม่จำเป็นต้องอั้นไว้ค่ะ เพราะอาจจะทำให้มีอาการท้องผูกตามมาได้ค่ะ

                ****กำหนดการคลอดใกล้เข้ามาทุกที คุณพ่อคุณแม่ช่วงนี้อาจต้องกระตือรือร้นในการเตรียมความพร้อมก่อนการทำคลอดนะคะ ที่สำคัญที่สุดคือการดูแลสุขภาพร่างกายของคุณแม่ค่ะ ระมัดระวังเรื่องอาหารการกินและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รับฝากครรภ์อย่างเคร่งครัดนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่ในการทำคลอดอย่างปลอดภัยค่ะ***

“การเป็นมนุษย์แม่ทุกๆวัน คือการนับถอยหลัง ที่จะได้เจอหน้าลูกน้อย”