"น้ำคร่ำแตก" มีอาการยังไง??

**มีน้ำอะไรไหลไม่รู้ ใช่น้ำคร่ำไหมนะ?! คุณแม่ท้องท่านไหนไตรมาสสุดท้ายแล้ว ห้ามพลาดคลิปนี้เลยนะคะ**

ถึงแม้ว่าคุณแม่จะมีวันกำหนดคลอดโดยประมาณจากคุณหมอแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะคลอดวันนั้นเป๊ะๆนะคะ อาการน้ำคร่ำแตก จึงเป็นสัญญาณบอกว่าลูกน้อยในท้อง พร้อมที่จะออกมาเจอหน้าคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ 

น้ำคร่ำคือะไร?

 คือน้ำที่อยู่ล้อมรอบตัวลูกน้อยในครรภ์ เป็นน้ำที่บรรจุอยู่ในถุงน้ำคร่ำ และสารต่างๆ เล็กน้อย เช่นรวมทั้งขี้ไคลและปัสสาวะของลูกน้อยในครรภ์ และในระหว่างการตั้งครรภ์น้ำคร่ำที่อยู่รอบตัวลูกนี้จะสร้างเพิ่มขึ้นมาทีละน้อยค่ะ เป็นตัวกันการกระทบกระเทือนของลูกในท้องนั่นเอง

"น้ำคร่ำแตก" มีอาการยังไง??

1.เสียง

    จากประสบการณ์ของคุณแม่หลายคน บอกว่าก่อนที่จะมีน้ำคร่ำไหลออกมาจะมีเสียงคล้ายกับลูกโป่งแตก หรือเสียงหนังสติ๊กค่ะ แต่คุณแม่บางคนอาจไม่รู้สึกนะคะ ดังนั้นต้องสังเกตอาการอื่นร่วมด้วยค่ะ

2.มีน้ำคร่ำไหล

    อาการน้ำคร่ำแตก ไม่ได้ไหลทะลักน่ากลัวเหมือนในละครนะคะ แต่จะค่อยๆไหลออกมาเรื่อยๆ โดยไม่สามารถอั้นไว้ได้ ตามจังหวะมดลูกบีบตัว น้ำที่ไหลออกมาจะไม่มีสีและไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นหวานนิดๆค่ะ 

3.อาการเจ็บท้องคลอด

อาการเจ็บท้องคลอดมักจะยังไม่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่น้ำคร่ำแตกนะคะ แต่จะเกิดขึ้นหลังจากน้ำคร่ำแตกประมาณ 12-24 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อน้ำเดิน น้ำคร่ำแตก ต้องเตรียมตัวไปโรงพยาบาลเลยนะคะ

เมื่อน้ำคร่ำแตก ทำอย่างไรดี?

1. ใส่ผ้าอนามัย 

เพื่อช่วยป้องกันน้ำคร่ำเลอะเทอะ ระหว่างคุณแม่เตรียมตัวไปโรงพยาบาลนั่นเองค่ะ ใช้แบบแผ่นนะคะ ห้ามใช้แบบสอดค่ะคุณแม่

2. หมั่นสังเกตสีของน้ำคร่ำ 

หากสังเกตว่าน้ำคร่ำมีสีที่ผิดปกติ เช่น มีสีเขียวหรือสีน้ำตาล เรียกว่า น้ำคร่ำขี้เทา แสดงว่าลูกในท้องได้มีการขับถ่ายกากอาหารออกมา ให้รีบไปโรงพยาบาลด่วนเลยนะคะ เพราะมีความเสี่ยงว่าลูกน้อยอาจสำลักจนเป็นอันตรายได้

3. เช็กว่ามีสายสะดือออกมาหรือไม่

อีกข้อสังเกตหนึ่งที่คุณแม่ควรสังเกตหลังน้ำคร่ำแตก คือมีสายสะดือออกมาจากช่องคลอดหรือไม่ โดยเฉพาะแม่ๆที่น้ำเดินก่อนกำหนด อาจเสี่ยงต่อภาวะสายสะดือย้อยได้ค่ะ อันตรายมากๆ หากเห็นว่ามีควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนนะคะคุณแม่

    รู้แบบนี้แล้ว คุณแม่ท้องที่รู้ตัวว่าใกล้กำหนดคลอด เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอนะคะ หากน้ำคร่ำแตก หรือมีอาการแทรกซ้อนใดๆจะได้รีบไปพบแพทย์ได้ทันทีค่ะ 

“เฝ้ารอด้วยหัวใจ นับวันใกล้ได้เห็นหน้าลูก”