***แม่ท้องไตรมาสสุดท้ายห้ามพลาด!! จะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนน้ำเดิน หรือแค่ปัสสาวะเล็ด ถ้าอยากรู้ห้ามพลาดคลิปนี้ แต่ก่อนที่จะไปดูคลิปอย่าลืมกดlikeตรงนี้ ใครกดแล้วขอให้คลอดง่าย ปลอดภัยทั้งแม่และลูกนะคะ***

แม่ท้องมือใหม่ที่ใกล้คลอด คงเป็นกังวลกันยกใหญ่เพราะแยกไม่ออก ระหว่างอาการฉี่เล็ดกับน้ำเดิน ฉี่เล็ดทีก็เครียดทีตื่นเต้นมาก คิดว่าลูกจะออกมาเซฮายแล้ว(หัวเราะ) วันนี้แอดมีวิธีแยกอาการปัสสาวะเล็ดกับน้ำเดิน จะดูได้จากอะไรบ้างไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ

1.ปริมาณของเหลวที่ไหลออกมา

หากน้ำเดินเพราะถุงน้ำคร่ำแตก จะมีน้ำไหลออกมาเรื่อยๆไม่หยุด ไม่ว่าจะปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม หากปัสสาวะเล็ดจะมีน้ำเล็ดออกมาไม่เอยะมาก และไหลครั้งเดียวแล้วหยุด แม่ท้องจะสามารถกลั้นได้ แต่อาการน้ำเดินจะไม่สามารถกลั้นได้นั่นเองค่ะ

2.สีและกลิ่น

หากเป็นน้ำคร่ำจากภาวะน้ำเดินจะไม่มีสี และไม่มีกลิ่น หากเป็นปัสสาวะ จะมีกลิ่นของปัสสาวะ จะเป็นน้ำมีสีเหลืองและมีกลิ่นฉุนๆ คล้ายแอมโมเนีย บางครั้งถ้ามีของเหลวผสมมูกเลือดไหลออกมา ให้แม่ท้องรีบไปหาหมอทันทีเลยนะคะ อาการแบบนี้อันตรายค่ะ

3.มีอาการปวดท้อง

ปกติเวลาเราปัสสาวะจะไม่ปวดท้องใช่ไหมคะ ก็แค่ฉี่ปกติ แต่ถ้าแม่ท้องมีอาการน้ำเดิน มักจะมีอาการปวดท้องร่วมด้วย จะปวดคล้ายๆอาการปวดท้องประจำเดือนนั่นเอง ซึ่งต่างจากอาการปัสสาวะเล็ดโดยสิ้นเชิงค่ะ

สรุปแล้วอาการน้ำเดินกับปัสสาวะเล็ดมีความแตกต่างกัน สังเกตง่ายๆคือดูสีและกลิ่น ดูว่าปริมาณของเหลวมีมากพอรึเปล่า และสังเกตว่ามีอาการปวดบีบท้องไหม ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ

***เมื่อแม่ท้องรู้วิธีสังเกตแล้ว หากมีอาการดังกล่าว ดูแล้วผิดปกติแน่นอนให้แม่ท้องรีบบอกคนใกล้ตัวให้พาไปหาหมอด่วนเลยค่ะ เพราะถ้าหากเป็นภาวะน้ำเดินจริงต้องให้หมอทำการคลอด เพราะไม่อย่างนั้นลูกอาจขาดออกซิเจนจนเกิดอันตรายได้ค่ะ***

“แม่ท้องควรสังเกตอาการให้ดี เพื่อรักษาภาวะที่ดีของลูกในท้อง”