***มีน้ำอะไรไหลไม่รู้ โอ้ยปวดหลังมาก!! ปกติไหมเนี่ยไปหาหมอดีไหม? หลายอาการตอนท้องที่แม่ท้องกังวลเราสรุปมาให้สังเกตตัวเองง่ายๆ ถ้ามีอาการแบบนี้รีบไปหาหมอด่วน จะมีอาการอะไรบ้าง ห้ามพลาดคลิปนี้ แต่ก่อนที่จะไปดูคลิปอย่าลืมกดlikeตรงนี้ ใครกดแล้วขอให้การเงินไม่สะดุด ครอบครัวดีสุดๆไปเลยค่ะ***

คนท้องมีอาการแปลกๆระหว่างตั้งท้องตลอด แม่ท้องเลยไม่แน่ใจว่าควรจะไปหาหมอดีไหม อาการแบบไหนถึงเรียกว่าอันตราย และควรรีบไปพบคุณหมอ วันนี้คนท้องEverything channelรวบรวมมาให้แล้ว จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1.มีเลือดออก

อาการเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ มักจะพบได้ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ถ้าหากมีเลือดออกพร้อมกับอาการปวดท้อง แม่ท้องควรรีบไปหาหมออย่างด่วนที่สุด เพราะอาการเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ เป็นสัญญาณอันตรายเสี่ยงต่อการแท้งมากค่ะ (โดยเฉพาะคุณแม่เคยมีประวัติแท้งหากตั้งครรภ์อีกครั้งและมีเลือดออกรีบพบแพทย์ด่วน)

2.เป็นตะคริวและมีเลือดออก

การเกิดตะคริวบริเวณท้อง เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับแม่ท้องทุกคน เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากระหว่างตั้งครรภ์ ถ้าแม่ท้องมีอาการตะคริวและมีเลือดออก อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีการตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆนั่นเองค่ะ

3.อาการบวม

ถ้ามีอาการบวมเกิดขึ้นมากะทันหันโดยเฉพาะที่เท้า ขา และมือ ร่วมกับอาการปวดหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังจากสัปดาห์ที่ 28 ของการตั้งครรภ์ นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายของอาการครรภ์เป็นพิษ และอาจเป็นอาการของความดันในเลือดสูงอีกด้วยค่ะ

4.รู้สึกเปียกเหมือนน้ำเดิน

ถ้าแม่ท้องรู้สึกเปียกๆ อาจหมายถึงถุงน้ำคร่ำแตกหรือรั่ว ทำให้มีน้ำคร่ำไหลออกมา อาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนดได้ เนื่องจากการบีบตัวของมดลูกอย่างรุนแรงหรือเกิดการกระแทกจากอุบัติเหตุ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ เพราะเมื่อมีน้ำเดินออกมา เชื้อโรคก็สามารถจะเข้าไปในถุงน้ำคร่ำ ทำให้เกิดการติดเชื้อในทารกและเป็นอันตรายถึงชีวิต ถ้าแม่ท้องสังเกตว่ามีน้ำไหลจากช่องคลอด ควรรีบไปพบคุณหมอทันทีเลยค่ะ

5.ลูกดิ้นน้อยลง
แม่ท้องควรสังเกตการดิ้นของลูก หากดิ้นน้อยผิดสังเกตควรรีบไปพบแพทย์ สำหรับในไตรมาสที่ 2ถึงไตรมาสที่ 3 ลูกควรจะดิ้นอย่างน้อย 10-12 ชุดต่อวัน คือนับจากเริ่มดิ้นจนหยุดดิ้นเป็น 1 ชุด
เมื่อเข้าไตรมาสที่ 3 ปลายๆ คุณแม่อาจรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง เพราะลูกตัวใหญ่จนคับมดลูก การขยับตัวจะเป็นไปในลักษณะการโก่งตัวหรือเหยียดแขนขา ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเจ็บได้ อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงผิดสังเกตหรือไม่ดิ้นเลยควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วนะคะ

6.ปวดหัว ตามัว จุกใต้อก

อาการนี้อาจถึงภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งถือว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ที่มีอันตรายถึงชีวิตต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์ด้วย พบได้บ่อยในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะแม่ท้องที่เป็นวัยรุ่นและแม่อายุมาก หรือคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดันสูง โรคไต เป็นต้น ถ้าแม่ท้องมีอาการปวดหัว ตาพร่ามัว หายใจไม่เต็มอิ่มควรรีบไปหาหมอด่วนเลยค่ะ

7.มีไข้สูง

การมีไข้ขณะตั้งท้องถือว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยที่สำคัญ เพราะเป็นอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อ ซึ่งหากมีการติดเชื้อที่รุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะแท้ง หรือความพิการของทารก และการคลอดก่อนกำหนด หรืออาจเป็นไข้เลือดออก หรือไข้หวัดใหญ่เป็นต้น ถ้าหากแม่ท้องมีอาการไข้ขึ้นสูงก็ขอให้รีบไปหาหมอเพื่อให้การตรวจและรักษาแต่เนิ่นๆ ที่สำคัญอย่าซื้อยากินเองเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้การวินิจฉัยโรคล่าช้าและยังอาจมีอันตรายจากการซื้อยากินเองอีกด้วยค่ะ

หากมีอาการตรงกับข้อใดข้อหนึ่ง แม่ท้องไม่ควรนิ่งนอนใจ รีบไปพบคุณหมอทันที จะได้รักษาอย่างทันท่วงที ก็จะทำให้แม่ท้องและลูกในท้องปลอดภัย และแข็งแรงทั้งแม่และลูกนะคะ

***ทั้งหมดนี้คือสัญญาณอันตราย หากมีอาการผิดปกติดังกล่าว แม่ท้องควรสังเกตและดูแลตัวเอง เพราะจะช่วยให้แม่ท้องและทารกในครรภ์มีสุขภาพดีคลอดปลอดภัย เพราะฉะนั้นถ้าพบว่ามีอาการแปลกๆ ไม่ว่าอาการใดก็ตามอย่าได้นิ่งนอนใจเด็ดขาดนะคะ***

“สัญญาณอันตรายนั้นสำคัญ แม่ท้องอย่าลืมจำให้ขึ้นใจ”