***ใกล้จะคลอดแล้ว ท้องก็ไม่ปวด น้ำก็ไม่เดิน มูกก็ไม่ไหล เอาไงดี ต้องไปโรงพยาบาลเลยไหม? ก็คุณหมอเป็นคนกำหนดว่าต้องคลอดวันนั้น จะทำยังไงดีเนี่ย!! อ๊ายย!!!***
ปัจจุบันแม่ท้องจำนวนมาก คลอดก่อนหรือคลอดช้าเกินกำหนด การคลาดเคลื่อนเช่น แม่ท้องจำไม่ได้ว่าประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไร จึงแจ้งกับหมอที่คุณแม่ฝากครรภ์ผิด การประเมิณอายุครรภ์จึงคลาดเคลื่อนไปด้วย หรืออีกเหตุผลหนึ่งคือพัฒนาการของทารกในครรภ์ ช้าหรือเร็วผิดปกติ หรือมาจากโรคประจำตัวของแม่ท้องเอง วันนี้คนท้อง Everything channel จะมาบอกแม่ท้อง ถึงผลกระทบหากแม่ท้องคลอดลูกไม่ตรงกำหนด จะเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมกันค่ะ!!
ถ้าแม่ท้องคลอดก่อนกำหนดทารกเสี่ยง!!
คลอดก่อนกำหนดคือคลอดก่อน 37 สัปดาห์ค่ะ เช่นแม่ท้องที่เป็นเบาหวาน,โรคหัวใจ,อายุมากเกิน,ครรภ์แฝด หรืออาจมาจากสาเหตุอื่นๆ มาดูกันว่าลูกเกิดมาเสี่ยงอะไรบ้าง?
1.เสี่ยงตามีปัญหา ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายหรือช่วงสัปดาห์ที่ 28-40 ของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ทารกในครรภ์มีการพัฒนาดวงตามากที่สุด ถ้าคลอดก่อนกำหนดจะเกิดปัญหาในการมองเห็น เช่นจอประสาทตาผิดปกติ เลือดไปเลี้ยงจอประสาทตาได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดการบวม เลือดออก และทำให้จอประสาทตาแยกออกจากลูกตา จะส่งผลต่อการมองเห็นหรือถึงขั้นตาบอดได้
2.เสี่ยงหูมีปัญหา ปัญหาเกี่ยวกับหูและการได้ยิน ในทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจพบปัญหาที่เกี่ยวกับหู เช่น สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด เป็นการสูญเสียการได้ยินเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับหูข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง มักเป็นผลมาจากความบกพร่องทางพันธุกรรม หรือในแม่ท้องที่มีการติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ
3.เสี่ยงสมองมีปัญหา ปัญหาเกี่ยวกับสมอง เช่น ภาวะเลือดออกในโพรงสมอง ให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ประสาท และอาจรวมไปถึงอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคโลหิตจาง อัตราการเต้นของหัวใจต่ำ หยุดหายใจชั่วขณะ ชัก รวมถึงไม่สามารถดูดนมได้ตามปกติ จะส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือสมองได้รับการกระทบกระเทือนตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือหลังคลอดนั่นเองค่ะ
4.เสี่ยงการหายใจมีปัญหา ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีระบบทางเดินหายใจที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ เช่น ปอดไม่สามารถขยายและหดตัวได้ตามปกติ ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจต่อไปค่ะ
5.เสี่ยงหัวใจมีปัญหา เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจเกิน เกิดจากการเปิดของเส้นเลือดหลัก ซึ่งควรจะปิดลงหลังทารกคลอด ทำให้มีเลือดสูบฉีดผ่านปอดเป็นจำนวนมาก และอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอดและหัวใจล้มเหลวได้ในอนาคต
6.เสี่ยงติดเชื้อ ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะสามารถติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากทารกมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ได้รับสารภูมิต้านทาน จากแม่มาปริมาณเล็กน้อย กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้ยังไม่ดีค่ะ
ถ้าแม่ท้องคลอดเกินกำหนดทารกเสี่ยง!!
คลอดเกินกำหนดคือ คลอดหลัง42สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ
1.เสี่ยงคลอดยาก ถ้าหากแม่ท้องคลอดเกินกำหนด ทารกในครรภ์จะเจริญเติบโตขึ้นมาก ทำให้ทารกตัวโตและคลอดได้ยาก คุณแม่จึงมีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดทำคลอด การใช้เครื่องดูดสุญญากาศช่วยคลอด การใช้คีมช่วยคลอดได้ค่ะ
2.เสี่ยงรกเสื่อมสภาพ พออายุครรภ์เกินกำหนด จะส่งผลให้ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนเรื้อรัง จึงทำให้เลือดส่งไปยังทารกลดลง ทารกจึงไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควรจะเป็น น้ำคร่ำจะน้อยลง เมื่อเจ็บครรภ์จริง จะมีการหดรัดตัวของมดลูกมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สายสะดือถูกกดจากตัวทารกได้ง่าย คุณแม่จึงมีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดทำคลอด การใช้เครื่องดูดสุญญากาศ การใช้คีมช่วยทำคลอดได้ค่ะได้เช่นกัน
3.เสี่ยงน้ำคร่ำน้อย ปกติปริมาณน้ำคร่ำจะลดลงหลังจากอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ การที่น้ำคร่ำน้อยจะเสริมให้ขี้เทาที่ปนในน้ำคร่ำมีความเข้มข้นมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการสำลักขี้เทาหลังคลอดตามมาได้ ส่วนสาเหตุของภาวะน้ำคร่ำน้อย จะเกิดจากทารกที่อายุครรภ์เกินกำหนดนั่นเองค่ะ
4.เสี่ยงทารกในครรภ์เกิดภาวะเครียด ระวังให้ดีค่ะ ถ้าทารกในครรภ์เกิดภาวะเครียดแล้ว อาจส่งผลให้การเต้นของหัวใจผิดปกติ ในกรณีนี้ทารกอาจเสียชีวิตได้เลยนะคะ เมื่อทราบว่าคุณแม่มีอายุครรภ์เกินกำหนดมีความเสี่ยง แพทย์จะให้การดูแลรักษาโดยการตรวจติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์ก่อนคลอดอย่างใกล้ชิด รวมถึงการกระตุ้นคลอด จากการศึกษาพบว่า ภาวะแทรกซ้อนของคุณแม่และทารกในครรภ์ จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่คุณแม่มีอายุครรภ์ 41 สัปดาห์ แพทย์จะเริ่มตรวจติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่คุณแม่มีอายุครรภ์ 41 สัปดาห์ และจะทำการตรวจสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งพบว่าสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของทารกลงได้ ส่วนวิธีการตรวจก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีที่สามารถใช้ประเมินร่วมกันได้แล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์ค่ะ
***การคลอดก่อนหรือเกินกำหนดนานๆ ล้วนแต่ส่งผลเสียกับแม่ท้อง และทารกในครรภ์ทั้งสิ้น ดังนั้นการตรวจสุขภาพตลอดการตั้งครรภ์ จึงสำคัญที่สุดค่ะ***
เมื่อแม่ท้องรู้แล้ว ว่าผลที่เกิดขึ้นอันตรายแค่ไหน อย่าลืมสังเกตุจดจำและศึกษาอาการให้ดี เพื่อดูแลตัวเองและทารกในครรภ์อย่างดีที่สุด อย่าพยายามทำอะไรเสี่ยงๆ เพราะคุณแม่อย่าลืมนะคะ ว่ามีชีวิตน้อยๆอยู่ในท้องอีกหนึ่งคน เราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว จริงไหมคะ?
“เร็วไปไม่ดี ช้าไปยิ่งไม่ดี ต้องมีความพอดีชีวิตจะมีสุข”
หน้าที่เข้าชม | 15,783,845 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,643 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |