แม่ท้องมักจะมีอาการจุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย เนื่องจากลูกในท้องตัวใหญ่ขึ้น จึงทำให้ดันท้องและกระเพาะอาหารของคุณแม่ นอกจากจะทำให้คุณแม่ทานได้น้อย แน่นท้องได้ง่าย มีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ลิ้นปี่ เรอเปรี้ยว ขมลิ้น เจ็บปวดภายในอกและกระจายถึงคอ จนนำไปสู่อาการเจ็บคอหรือการไปเรื้อรังได้ บางคนรู้สึกปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ร้าวไปที่หลัง หรือจากลิ้นปี่ยาวลงมาเหนือสะดือ แล้วยังอาจทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารค่ะ อาการของกรดไหลย้อน จะแสบบริเวณหน้าอก คอ รู้สึกเหมือนอยากอาเจียน เรอบ่อย มีน้ำรสขมหรือเปรี้ยวในคอ เจ็บระคายเคืองลำคอ มักเป็นเวลาหลังทานข้าว หรือเวลางอตัว

 วิธีลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง

1. ทานอาหารทีละมื้อเล็กๆ หลายๆมื้อ เนื่องจากพื้นที่ว่างในกระเพาะน้อยลงค่ะ หากทานเยอะ จะแน่นท้องได้

2. เลี่ยงอาหารรสเผ็ด รสจัด อาหารทอด อาหารที่น้ำมันเยอะ เครื่องดื่มคาเฟอีนค่ะ

3. เลี่ยงการทานอาหารที่มีแก๊สเยอะ เช่นกะหล่ำปลี กระหล่ำดอก หน่อไม้ น้ำอัดลม

3. หลังทานอาหาร นั่งตัวตรงๆ หรือนอนแบบกึ่งนั่งโดยพิงหมอน ประมาณ1-2ชั่วโมง เพื่อช่วยในการย่อย

4. หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่แน่น หรือใส่แล้วร้อนค่ะ

5. จิบนมเมื่อรู้สึกแสบร้อน

นอกจากนั้น หากคุณแม่ท้องมีอาการท้องผูกที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย ที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนและแรงกดจากเด็กในท้องซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้ คุณแม่ท้องควรทานอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น หรือดื่มน้ำผลไม้ที่มีฤทธิเป็นยาระบาย และดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 10 แก้ว ออกกำลังกายค่ะ และคุณแม่ท้อง เวลาลุกจากเตียง ควรลุกอย่างอย่างระวัง ไม่เกร็งหน้าท้องเวลาลุกหรือเวลานั่งและเวลาล้มตัวนอน ควรใช้แขนยันพื้นเวลาลุกนั่ง เพื่อลดอาการเกร็งหน้าท้องที่อาจทำให้จุกเสียดได้ค่ะ