คุณแม่ท้องอาจจะกังวลว่าลูกจะดิ้นเมื่อไหร่ บางครั้งลูกดิ้นแรงหรือดิ้นเบาเกิดจากอะไร? ทำไมกลางคืนแล้วลูกถึงดิ้นไม่หยุดเลย!! ไม่ง่วงนอนหรอ? วันนี้เรามีการดิ้นแต่ละแบบมาบอกกันค่ะ!!!" alt="" />
การดิ้นของเจ้าตัวเล็ก คือการสื่อสารถึงคุณแม่ค่ะ โดยทั่วไปแล้วทารกน้อยจะเริ่มดิ้นเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 16 – 20 สัปดาห์ และเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 20 สัปดาห์ ทารกจะดิ้นประมาณ 200 ครั้งใน 12 ชั่วโมง
ทารกจะดิ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ทารกจะดิ้นประมาณมากกว่า 500 ครั้งใน 12 ชั่วโมง หลังจากนั้นทารกจะดิ้นน้อยลงเรื่อย ๆ เพราะขนาดตัวใหญ่ขึ้นนั่นเองค่ะ และเมื่ออายุครรภ์ 40 สัปดาห์ทารกจะดิ้นประมาณ 250ครั้งขึ้นไปใน 12 ชั่วโมงค่ะ
หนูดิ้นเพราะอยากบอกแม่ว่า ....
การดิ้นของเจ้าตัวเล็กมีหลายเหตุผลกันเลยค่ะ โดยปกติแล้วการเคลื่อนไหวของทารกเป็นสัญญาณบอกว่า ทารกยังอยู่ในภาวะปกติแข็งแรง ถ้ามีภาวะเครียด เช่น ขาดออกซิเจน การไหลเวียนของเลือดที่รกลดลง ทารกจะเคลื่อนไหวน้อยลงก่อนหรือหยุดไป เชื่อว่าการดิ้นของทารกเกิดจากการกดระบบประสาท หรืออาจเป็นเพราะร่างกายต้องการลดพลังงานและออกซิเจน เพื่อสงวนไว้ให้อวัยวะที่สำคัญ ๆ เช่น สมองและหัวใจ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการดิ้นยอดฮิตที่เจ้าตัวเล็กมักดิ้นมาบอกกันค่ะ.......
1.เสียงดังจังหนูนอนไม่หลับ!!
อาการดิ้นแบบนี้มักเกิดในช่วงก่อนและหลังอาหาร และจะดิ้นมากขึ้นอีกครั้งในช่วง 3 ทุ่มขึ้นไป คุณแม่หลายท่านอาจคิดว่าลูกดิ้นเพราะหิว แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะว่าด้านบนของมดลูกเป็นลำไส้ของคุณแม่ ขดไปขดมา เวลาคุณแม่หิว จึงมีเสียงท้องร้อง ทำให้ลูกน้อยที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นรวมถึงหลังจากคุณแม่กินอิ่มใหม่ๆ ลำใส้ก็ทำงานและก่อให้เกิดเสียง เจ้าตัวเล็กได้ยินจึงดิ้นเพราะตื่นขึ้นมาค่ะ
2.หนูชอบจังเลยแม่!!
อันนี้เป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องสังเกตดูค่ะ เพราะข้อนี้ไม่ได้เกิดจากระบบในร่างกาย แต่เป็นการตอบสนองต่อเสียงหรือพฤติกรรมของคุณแม่ โดยลูกจะดิ้นแรงดิ้นถี่เป็นพิเศษกับเสียงหรือพฤติกรรมมที่เขาชอบ เช่น เวลาเปิดเพลง ร้องเพลง หรือเวลาที่คุณแม่เอามือลูบท้อง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ลูกน้อยมีการตอบสนองต่อกิจกรรมนั้นๆเป็นพิเศษ เวลาที่คุณแม่อารมณ์ดี ลูกในท้องก็อาจชอบใจ และอารมณ์ดีตามไปด้วยเหมือนกัน
3.หนูตื่นแล้ว!!
เป็นช่วงที่ลูกดิ้นมากเป็นพิเศษในช่วงกลางคืน เนื่องจากในช่วงเวลานี้ คุณแม่ใช้พลังงานน้อยลง นอนหลับพักผ่อน ใช้เลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายน้อยลง เลือดที่ออกมาจากหัวใจคุณแม่ก็ไปหล่อเลี้ยงมดลูกที่ลูกอาศัยอยู่มากขึ้น ลูกน้อยจะได้รับออกซิเจนมากขึ้น จึงผ่อนคลายร่างกายด้วยการยืดแข้งยืดขา เป็นสัญญาณให้คุณแม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กตื่นแล้วค่ะ
สิ่งสำคัญการกระตุ้นทางกายภาพด้วยเสียง แสง รวมถึงการสัมผัส จะช่วยทำให้ทารกในครรภ์มีการเคลื่อนไหวและมีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น พ่อและแม่อาจพูดคุยกับลูกในท้องด้วยคำพูดไพเราะ พูดเล่นกับลูกเพื่อให้ลูกเกิดความคุ้นเคย อาจจะทำวันละครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที และอาจใช้มือลูบที่หน้าท้องของคุณแม่หรือตบเบา ๆ ตรงตำแหน่งที่ลูกดิ้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยและเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกน้อยได้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 15,783,565 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,363 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |