***เรื่องที่แม่หลังคลอดทุกคนกังวล ไม่ว่าจะแผลคลอดธรรมชาติหรือแผลผ่าคลอด ก็ต้องดูแลแผลให้ถูกต้องเพื่อให้แผลหายไว และผิวกลับมาเรียบสวยเหมือนก่อนคลอด มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ***

1. ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี (ฝีเย็บ)

ทำความสะอาดแผลโดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดแผลอย่างเบามือวันละ 2 ครั้ง ที่สำคัญคือ ต้องเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลังเท่านั้น หลังจากนั้นให้ซับแผลให้แห้งเสมอ

2.ประคบเย็น หลังคลอดใหม่ ๆ สามารถวางถุงเย็นรอบ ๆ ที่บริเวณปากช่องคลอด แต่ต้องระวังอาจมีฤทธิ์ของยาชาที่ทำให้ไม่รู้สึกว่าหนาวหรือร้อนเกินไปจนทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง

3.กินยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรืออาจใช้ครีมหรือสเปรย์ที่ใช้ลดอาการเจ็บปวด ซึ่งควรปรึกษาคุณหมอ

4.เลือกใช้กางเกงในชนิดผ้าฝ้าย ซึ่งสามารถระบายความอับชื้นได้ดีกว่าผ้าไนลอน และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยที่ใช้ซับน้ำคาวปลานาน 7-10 วัน เปลี่ยนให้บ่อย ๆ นะคะ

5.ล้างจากหน้าไปหลัง ทุกครั้งที่มีการปัสสาวะหรือถ่ายอุจจาระ ควรจะล้างทำความสะอาดไปทางด้านหลัง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากทวารหนักหรือจากช่องปัสสาวะที่ปกติจะมีเชื้อโรคอยู่

ในช่วง 3 เดือนแรกแผลมีโอกาสเป็นคีลอยด์สูง หมายถึง แผลที่มีลักษณะนูนแดง วิธีป้องกันคือ ไม่ควรยกของหนัก หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นบันได ระมัดระวังการลุกนั่งจากท่านั่งหรือนอน และไม่ควรทำให้กล้ามเนื้อท้องต้องยืดเหยียดจนแผลตึงมากเกินไป เพราะจะทำให้กระตุ้นร่างกายให้สร้างเส้นใยคอลลาเจนหนา ๆ เพื่อทำให้แผลหนาแน่นขึ้น จนกลายเป็นแผลนูนนั่นเอง  ซึ่งทางโรงพยาบาลจะจัดยาสำหรับทาแผลคีลอยด์กลับมาด้วย  ซึ่งยาดังกล่าวมีส่วนผสมของวิตามินอีและอาจมีสเตียรอยอ่อน ๆ ก็สามารถลดการนูนของแผลลงได้

หลังคลอดห้ามกินไข่จริงหรือ?

ไข่ ไม่ได้เป็นของแสลง และไม่ได้ทำให้แผลเน่า หรือหายช้า เป็นแผลนูนจากการกินไข่แต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้าม ไข่ เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ที่หาได้ง่าย ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายหลังการผ่าตัด โปรตีนเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างเนื้อเยื่อและผิวหนังใหม่ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นค่ะ

.....ได้ทราบวิธีการดูแลแผลหลังคลอดทั้งแผลฝีเย็บและแผลผ่าคลอดกันแล้วนะคะ  ไม่ยากเลยค่ะ  เน้นเรื่องการรักษาความสะอาดเป็นสำคัญ  และไม่ควรทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่หักโหมกับร่างกายมากนัก เพราะไม่เป็นผลดีต่อคุณแม่เลย.....