เรื่องสวยๆ งามๆ กับคุณผู้หญิงเป็นของคู่กันคนท้อง หลาย ๆ คนคงอยากเข้าร้านเสริมสวยในช่วงตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการตัด ดัดผม ย้อมผม ยืดผม แต่ก็เป็นห่วงลูกน้อย กลัวลูกจะได้รับอันตรายจากสารเคมีที่ใช้ในร้านเสริมสวย เรื่องความสวยความงามของคนท้อง เรื่องใดสามารถทำได้ เรื่องใดต้องห้าม มาดูกัน!!
1.โกรกผม ย้อมผม ยืดผม ดัดผม
สำหรับเรื่องการเสริมสวยของเส้นผมระหว่าตั้งครรภ์นั้น ไม่ว่าจะดัด ยืด ย้อมผม ทำสี แนะนำว่าถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงค่ะ เพราะการเสริมความงามเหล่านี้ต้องใช้สารเคมี ซึ่งสารเคมีบางอย่างอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการแพ้ได้ หรือถ้าอดใจไม่ไหว อยากเสริมสวยจริงๆละก็ ควรรอทำหลังจากที่มีอายุครรภ์เกิน 4 เดือนไปแล้ว เพราะการตั้งครรภ์ช่วงแรกเป็นช่วงที่มีการพัฒนา สร้างอวัยวะต่างๆของลูกในท้อง คุณแม่ควรมองหาน้ำยาในการทำผมที่ผ่านการรับรอง ความปลอดภัยจาก FDA เสมอ อย่างไรก็ตาม น้ำยาดัด ยืดผม น้ำยาย้อมผม ทำสีส่วนใหญ่ยังไม่มีการรายงาน หรือมีหลักฐานยืนยัันแน่ชัดว่าส่งผลกระทบต่อลูกในท้องแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้เคยมีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับภัยของการทาเล็บกับคนท้องว่าไม่ควรทาเล็บเพราะอาจเป็นอันตรายต่อตัวอ่อนในครรภ์ได้ ทำให้คุณแม่หลายคนกังวล โดยเฉพาะคนที่รักการตกแต่งเล็บเป็นชีวิตจิตใจ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีรายงานถึงกรณีที่การทาเล็บจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเด็กที่คลอดออกมาแต่อย่างใด
ดังนั้นก็สรุปได้ว่า คุณแม่ท้องสามารถทาเล็บได้ แต่ต้องระวังเรื่องการสูดดมยาทาเล็บระหว่างที่รอเล็บแห้งเพราะยาทาเล็บก็มีสารเคมีบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณและลูกในครรภ์หากใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
ความจริงการทำฟันขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ทำได้ เพียงแต่ต้องให้ความระมัดระวังให้มาก ซึ่งหากคุณแม่ท้องจำเป็นต้องถอนฟันอาจจะทำให้มีเลือดออกได้มากกว่าคนที่ไม่ตั้งครรภ์ หมอฟันจึงมักจะหลีกเลี่ยงที่การถอนฟันของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ทำได้ ในคุณแม่บางรายที่มีปัญหาต้องกรอฟันเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้เกิดอาการเกร็ง ถ้าเคยมีประวัติหรือมีความเสี่ยงจะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด อาจจะทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ อย่าลืมปรึกษาหมอที่ฝากครรภ์เพื่อประเมินความเสี่ยงของสุขภาพครรภ์ก่อนไปทำฟันด้วยนะคะ และอย่าลืมแจ้งหมอฟันด้วยนะคะว่าตนเองนั้นตั้งครรภ์อยู่
ซึ่งความจริงแล้ว ขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถแต่งหน้า ใช้น้ำหอมได้เหมือนก่อนตั้งครรภ์ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องค่ะ เพียงแต่ต้องระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดถี่ถ้วน หลีกเลี่ยงของปลอม หรือของไม่มีคุณภาพ ไม่มีอย.รับรอง เวลาแต่งก็อย่าพอกให้หนามากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกหนักหน้าแล้ว การแต่งหน้าทาปากจนเกินพอดี อาจทำให้ดูไม่งามขึ้นมาได้ค่ะ
การทำทรีตเม้นท์หน้าใส ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมี AHA หรือ BHA หรือไออนโต ที่กำลังได้รับความนิยมกันในขณะนี้ ส่วนใหญ่ตามสถานเสริมความงามทั่วไปมักจะเป็นการใช้กรดผลไม้ ช่วยผลัดเซลผิว ซึ่งจะทำให้เมลานินที่เคยเป็นสารปกป้องผิวบางลง ทนแดด ทนมลภาวะได้น้อยลง รวมทั้งในครีมบำรุงผิวบางตัวก็มีส่วนผสมของสารบางชนิด คุณแม่ท้องบางคนอาจมีอาการแพ้ ใช้แล้วเกิดอาการคัน ระคายเคือง หรือเกิดเม็ดผื่นแดง ซึ่งควรหลีกเลี่ยงในระหว่างการตั้งครรภ์เพื่อป้องกันผลที่ไม่พึงประสงค์นั่นเองค่ะ
ถ้าคุณแม่ท้องเผลอไปฉีดและได้รับสารพิษชนิดนี้ในปริมาณมากๆ ก็มีผลอันตรายมากเช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ฉีด เพราะถ้ายาเข้าสู่กระแสเลือด ก็อาจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ รวมทั้งพบว่าสารนี้สามารถเข้าสู่เต้านมได้ด้วยค่ะจึงไม่เหมาะกับคุณแม่ที่ให้นมลูกด้วย
ทั้งนี้คุณหมอหลายท่านแนะนำว่า หากไม่จำเป็นคุณแม่ก็ควรรอให้คลอดน้องก่อนแล้วค่อยไปแต่งความงามเติมความสวยหลังคลอดน่าจะดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ต้องคอยกังวลตลอดเวลาที่อุ้มท้อง นอกจากจะช่วยปกป้องให้ลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัย 100% แล้ว ยังช่วยปกป้องตัวคุณแม่เองด้วย เพราะช่วงตั้งครรภ์ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแม่อาจจะเปลี่ยนแปลงไป