1. ผื่นตั้งครรภ์ Pruritic urticarial papules and plaques of pregnancy (PUPPP)
ผื่นคนท้องที่ชื่อว่า ผื่น PUPPP พบมากในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์เฉลี่ยอายุครรภ์ 35 สัปดาห์
สาเหตุผื่นตั้งครรภ์
คาดว่าเกิดจากผนังท้องขยายมากทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และคอลลาเจน อาการผื่นมีหลายลักษณะเช่นผื่นนูนแดงคล้ายลมพิษ หรือ เป็นตุ่มน้ำขนาดประมาณ 1-2 มม. พบมากบริเวณหน้าท้องโดยเฉพาะที่เป็นรอยแตกลาย กระจายไปที่ ต้นขา ก้น หน้าอก และแขน โดยทั่วไปมีอาการคันมาก ขึ้นนานประมาณ 6 สัปดาห์ และหายได้เองหลังคลอดภายใน 1-2 สัปดาห์ ไม่มีอันตรายต่อมารดาและทารกในครรภ์แต่อย่างใด
การรักษาผื่นตั้งครรภ์
เป็นการบรรเทาอาการคันเช่น ยาทาคาลาไมด์,ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ และยาแก้แพ้ ก็เพียงพอ
2. ผื่นตั้งครรภ์ Herpes gestationis
ชนิดนี้พบได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ลักษณะสำคัญคือเป็นผื่นแดงเฉียบพลันคล้ายลมพิษบริเวณลำตัว หลังจากนั้นจะกลายเป็นตุ่มน้ำใส หากมีการแตกของผื่นอาจกลายเป็นตุ่มน้ำขนาดใหญ่ได้ และมีอาการคันมาก การรักษาผื่นตั้งครรภ์ Herpes gestationis
การรักษาคือใช้ยาทาสเตียรอยด์ ผื่นชนิดนี้พบว่ามีความสัมพันธ์กับภาวะทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ และภาวะการคลอดก่อนกำหนด
3. ผื่นตั้งครรภ์ Pustular psoriasis of pregnancy
พบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์
อาการผื่นตั้งครรภ์ ลักษณะเป็นผื่นแดงรวมกับตุ่มหนอง กระจายทั่วลำตัว มารดาอาจมีอาการไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ปวดข้อร่วมด้วย ผื่นมักหายได้เองหลังคลอด แต่อย่างไรก็ตามอาจพบภาวะแทรกซ้อนได้เช่น ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ , การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสโลหิต , ภาวะรกเสื่อม และทารกตายในครรภ์ การรักษาผื่นตั้งครรภ์ Pustular psoriasis of pregnancy
การรักษาคือใช้ยาสเตียรอยด์ขนาดสูงตลอดการตั้งครรภ์, ยาไซโคลสปอริน , การรักษาด้วยแสงอัลตราไวโอเลตชนิดบี อย่างไรก็ตามภาวะนี้มีอันตรายทั้งมารดาและทารก ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
4. ผื่นตั้งครรภ์ Atopic eruption of pregnancy
พบในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของการตั้งครรภ์ ผื่นพบได้ 2 แบบคือชนิด eczematous เป็นผื่นแดง คัน บริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก และข้อพับแขนขาอีกชนิดหนึ่งคือชนิด papular eruption ซึ่งเป็นตุ่มแดง คัน กระจายทั่ว เป็นบริเวณด้านนอกของแขนขา การรักษาผื่นตั้งครรภ์ Atopic eruption of pregnancy
การรักษาใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์, ยาแก้แพ้บรรเทาอาการคัน โรคนี้ไม่มีผลกับทั้งมารดาและทารกในครรภ์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังพบว่าอิทธิพลของฮอร์โมนจะมีผลต่อการทำงานของตับ ทำให้เกิดอาการคัน เป็นต้น ซึ่งอาการคันในระหว่างตั้งครรภ์ก็ควรจะต้องหาสาเหตุดูก่อน เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
หน้าที่เข้าชม | 15,779,540 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,652,338 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |