...การเบ่งคลอดอันแสนเจ็บปวด เป็นภาพจำของหลาย ๆ คนจากละครไทย ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นจริง และเป็นการแสดงตามบทบาทของตัวละครในเรื่อง การเบ่งคลอดเป็นเรื่องของการฝึกฝนร่วมด้วยกับสัญชาติญาณของความเป็นแม่ก็มีส่วนช่วยให้เบ่งได้ด้วย ลองนึกภาพให้เทียบเคียงกับการถ่ายหนัก ว่าเราต้องฝึกเบ่งถ่ายหรือไม่ เมื่อถึงเวลาที่ต้องเบ่งถ่ายเราก็เบ่งได้เลยตามธรรมชาติ การเบ่งคลอดก็เช่นกัน...
ในครรภ์แรกคุณแม่ไม่เคยเบ่งคลอดมาก่อน แต่ส่วนใหญ่เมื่อได้รับการสอนเบ่งในช่วงที่กำลังรอคลอดในห้องคลอด ก็สามารถเบ่งได้ถูกต้องและคลอดสำเร็จได้ประสบการณ์การเบ่งคลอดก็มีความสำคัญ หากเคยเบ่งคลอดมาก่อน มักจะเบ่งคลอดท้องที่ 2 ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ความเจ็บปวดจากการเบ่งคลอด
...
ในช่วงที่รอคลอดให้ปากมดลูกเปิดหมดช่วงที่ยังไม่ได้เริ่มเบ่งคลอดจึงเป็นช่วงที่คุณแม่ได้รับความเจ็บปวดจากมดลูกหดรัดตัวแรง คุณแม่สามารถบรรเทาอาการปวดได้หลายเทคนิค เช่น
1.เป่าลมออกปาก
2.ผ่อนลมหายใจออกให้ยาว
3.นอนในท่าที่สบายตัว
4.กรีดร้อง คราง คำราม
5.ให้สามีหรือผู้อื่นช่วยบีบนวดบริเวณเอว
อีกทางเลือกนึงที่แม่ท้องหลายท่านอาจต้องเจอ คือ การผ่าคลอด
“ผ่าคลอดเป็นยังไง เรื่องที่ตัวดิฉันเองก็ยังไม่เคยเจอ ทั้ง ๆ ที่เตรียมใจคลอดโดยวิธีธรรมชาติ และก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าไม่สามารถคลอดเองได้…” คำกล่าวจากแม่ท่านนึงที่ได้แชร์ประสบการณ์ไว้
......เมื่อถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด พยาบาลเปิดเพลงเพื่อให้ผ่อนคลาย จากนั้นก็เตรียมร่างกายให้พร้อม ใช้วิธีบล็อกหลังเพื่อให้เรายังรู้สึกตัวและเห็นหน้าลูก เพียงแต่ร่างกายตั้งแต่ช่วงท้องลงไปจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากชา ดิฉันมองหาสามีว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาสักที เพราะตอนนั้นต้องการเขามากที่สุด อยากให้เห็นหน้าลูกพร้อมกัน
....เมื่อสามีเข้ามาในห้องผ่าตัดทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สามีเล่าให้ฟังว่าพอเข้าไปในห้องผ่าตัดและกุมมือฉันไว้ประมาณ 2 นาที คุณหมอก็กดท้องเหมือนพยายามคว้านหาลูกในท้องแล้วเริ่มเอาหัวเจ้าตัวเล็กโผล่ ขึ้นมาเป็นลำดับแรก จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นโลหะขนาดใหญ่คล้ายช้อนช้อนตัวลูกออกมา ลูกส่งเสียงร้องนิดเดียวเอง จากนั้นพยาบาลก็พาลูกไปทำความสะอาดตัว แล้วพาลูกมาให้เราดู วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูก น้ำตามันก็ทะลักออกมาเองเหมือนกับสมองมันสั่งว่านี่แหละผลงานอันน่าทึ่งของเรา นี่ลูกเราออกมาแล้วนะ พยาบาลถามว่า จะหอมแก้มลูกไหม แต่ฉันตอบไปว่าไม่เอาค่ะ ไม่มีแรง กลัวอุ้มลูกตอนนี้จะทำให้ลูกหล่นแล้วลูกเจ็บตัว จากนั้นสามีก็ต้องออกนอกห้องผ่าตัด ส่วนลูกก็ไปอยู่ในตู้ปรับอุณหภูมิเพื่อดูว่าตัวเหลืองไหม ส่วนดิฉัน วิสัญญีแพทย์มาให้ดมยาสลบและปล่อยให้คุณหมอเย็บแผล จากนั้นก็นอนพักฟื้นไปประมาณ 45 นาทีจนถึงรู้สึกตัวดีขึ้นมาอีกครั้ง
หน้าที่เข้าชม | 15,783,565 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,656,363 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |