สำหรับแม่ท้องที่ไม่มีประวัติการแพ้อาหารจำพวกถั่ว สามารถดื่มน้ำเต้าหู้ได้ตามปกติเลย หรือแม่ท้องบางคนแพ้นมวัว น้ำเต้าหู้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยบำรุงครรภ์คุณแม่

ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้

....ในน้ำเต้าหู้ มีสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “ไฟโตเอสโตรเจน” (Phytoestrogen) ที่มีอยู่ในน้ำเต้าหู้ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม ดังนั้น การดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำ จึงสามารถลดการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ด้วย

ประโยชน์อีกอย่างของน้ำเต้าหู้ก็คือ ช่วยดูแลเนื้อเยื่อร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง  และสารสำคัญอย่าง “เลซิทิน” ที่มีอยู่ในถั่วเหลือง ยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ และยังช่วยลดไขมันในร่างกายได้อีกด้วย

คนท้องกินน้ำเต้าหู้ทุกวัน ลูกจะขาวไหม

จริงอยู่ที่ว่า การดื่มน้ำเต้าหู้นั้น จะช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส แต่สำหรับเรื่องสีผิวของทารกนั้น เป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ เพียงแต่น้ำเต้าหู้ หรืออาหารที่เชื่อว่าจะช่วยให้ทารกผิวขาวนั้น จริงๆแล้วเป็นเพียงการช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน สดใส เปล่งปลั่งเท่านั้น ดั่งนั้นกินเพื่อให้ลูกมีโอกาสผิวสวยเนียนเปล่งปลั่ง เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ค่ะ

เรื่องที่ต้องระวังในการดื่มน้ำเต้าหู้
   การดื่มน้ำเต้าหู้ตอนท้องนั้น ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ใช่ดื่มมากเกินไป เพราะคิดว่าจะมีประโยชน์กับลูกน้อย แต่ผลออกมาอาจจะตรงกันข้าม เพราะอาจไปกระตุ้นให้ลูกเกิดมาแพ้ถั่วเหลืองได้ นอกจากนั้นแล้ว คุณแม่ท้องยังต้องระวังเรื่องความหวานด้วย เนื่องจากในน้ำเต้าหู้ที่ขายกันอยู่ตามร้านทั่วไปนั้น บางร้านคนขายก็มักจะใส่น้ำตาลทรายจำนวนมาก ซึ่งหากแม่ท้องดื่มน้ำเต้าหู้ที่ผสมน้ำตาลมากๆ ก็อาจทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงได้

....ปริมาณน้ำเต้าหู้ที่คุณแม่ท้องดื่มนั้น ไม่ควรเกิน 30 กรัม หรือประมาณ 1 แก้วต่อวัน เพราะหากดื่มมากไปอาจทำให้เกิดโทษต่อร่างกายแทนค่ะ