จากผลการวิจัยต่าง ๆ ระบุว่า หากแม่ท้องเครียด จะทำให้ความอยากอาหารน้อยลง เมื่อแม่กินน้อย ลูกในท้องก็จะได้รับสารอาหารน้อย ส่งผลทำให้การพัฒนาการของลูกถดถอย รวมถึงสุขภาพของคุณแม่ก็ทรุดโทรม ร่างกายไม่แข็งแรงก็อาจทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้นด้วย
ผลจากที่คุณแม่เครียดจะมีการหลั่งสารความเครียดออกมา ซึ่งสารนี้จะเข้าไปกระทบกับลูกในครรภ์โดยตรง ส่งผลถึงการทำลายเซลล์สมองของทารก ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ล่าช้า และเกิดมามีโอกาสที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้น มีความเครียดบ่อย งอแง เลี้ยงยาก และเป็นเด็กที่มีภาวะอารมณ์ที่แปรปรวน ขี้หงุดหงิด เสี่ยงต่อการเกิดอาการโรคซึมเศร้า มีพฤติกรรมก้าวร้าว และไม่เข้าสังคม เพราะความเครียดที่ได้รับจากคุณแม่ในตอนท้องนั่นเอง
คุณแม่ที่มีความเครียดสูงในขณะตั้งครรภ์ จะมีอัตราในการคลอดก่อนกำหนดที่สูง ทำให้ลูกมีน้ำหนักตัวน้อยและขนาดของทารกที่เล็กกว่าทารกปกติได้
เมื่อแม่มีภาวะเครียดระหว่างตั้งครรภ์มาก ลูกน้อยในครรภ์ก็จะอยู่ในสภาวะอ่อนแอ ในบางรายคุณแม่อาจจะมีรกเกาะต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดการแท้งเกิดขึ้นได้ง่าย
หากเครียดมากจะทำให้คุณแม่นอนไม่หลับ รับประทานอาหารได้น้อยลง และหากเป็นเรื้อรังก็อาจจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์ขึ้นได้
ดังนั้นวิธีที่จะไม่ให้เกิดผลเหล่านี้กับตัวคุณแม่และลูกน้อยคือ การพยายามที่จะ “ไม่เครียด” ในช่วงท้องนี้นะคะ คุณแม่ต้องพยายามหาทางผ่อนคลายและลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมต่าง ๆ ทำ เช่น การออกไปเดินเล่น ชวนคุณพ่อให้พาไปเดินช้อปปิ้งบ้าง เวลาอยู่บ้านให้เปิดเพลงสบาย ๆ ฟัง อ่านหนัง หรือดูหนังตลก สนุก ๆ เข้าไว้ ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ที่สำคัญที่สุดคือการหันไปปรึกษาคนข้าง ๆ ซึ่งมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อลูกในท้องด้วย ช่วยกันแก้ปัญหาความเครียดที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด ช่วงนี้คุณแม่ต้องมองโลกสวยเข้าไว้ พึงระลึกไว้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้นะคะ ยังมีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่คอยช่วยเหล่าได้ อย่าปฏิเสธความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่รู้สึกอ่อนแอ เพราะกำลังใจสำคัญมากจริง ๆ เมื่อคุณแม่ไม่เครียด ไม่กังวลกับอนาคต ดูแลตัวเองในปัจจุบันให้ดี ก็จะเกิดผลดีขึ้นกับลูกน้อยในท้องนะคะ
ที่มา th.theasianparent.com
หน้าที่เข้าชม | 15,779,387 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 13,652,185 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |