
ช่วง 3 เดือนแรก
ช่วงวางรากฐาน
- ช่วงเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของทั้งร่างกายและจิตใจเนื่องจากการปรับเปลี่ยนฮอร์โมน - เซลล์ใหม่ๆ กำลังสร้างตัวอย่างรวดเร็ว แม่ตั้งครรภ์ควรได้พลังงานเพียงพอ - น้ำหนักควรเพิ่มขึ้น 1.5- 2 กิโลกรัมหรือคงเดิม
อาหารช่วงแพ้ท้อง
- รับประทานอาหารใยช่วงที่รุ้สึกคลื่นไส้น้อยลง
- ดื่มน้ำผลไม้ หรือสมุนไฟร เช่น น้ำส้มคั้น น้ำขิง หรือนมอุ่นๆ
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่นโจ๊ก ข้าวต้ม ขนมปังกรอบจืด ขนมปังปิ้ง
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารทอดไฟแรง อาหารกลิ่นแรง
อาหารช่วง 3 เดือนแรก : อาหารเสริมสร้างเซลล์
โปรตีน : เนื้อสัตว์ต่างๆ
แคลเซียม : นม ชีส เต้าหู้ ผักใบเขียว ก้างปลา
กรดโพลิค : ส้ม ผักใบเขียว
เหล็ก : ตับ เลือด เนื้อแดง ไข่แดง ผักใบเขียว
สังกะสี : อาหารทะเล หอยแมลงภู่ ถั่วต่างๆ ธัญพืช
ไอโอดีน : อาหารทะเล สาหร่ายทะเล เกลือเสริมไอโอดีน
ช่วง 3 เดือนที่ 2
ช่วงสร้างระบบอวัยวะ
- ช่วงสร้างมวลอวัยวะ อวัยวะต่างๆ ของทารกมีการพัฒนาก่อตัวอย่างเต็มที่และสามารถทำงานได้
- ทรากในครรถ์ได้รับสารอาหาร และออกซิเจรจากแม่ผ่านทางรก และสายสะดือ จึงต้องรับประมานอาหารที่มีประโยชน์และถูกสัดส่วน
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 5-6 กิโลกรัม (0.5 กก ./สัปดาห์)
รับประทานอาหารที่ถูกสัดส่วน
- การรับประทานอาหารที่มีประโปรตีนต่ำ คาร์โบโฮเดรตสูง ทำให้เสี่ยงต่อโรคความดันสูง
- การรับประทานอาหารโปรตีนสูง แต่มีคาร์โบโฮเดรตต่ำ ทำให้ลูกเจริญเติบโตช้าน้ำหนักตัวน้อย
- รับประทานข้าว แป้ง 2 ส่วนต่อเนื้อ 1 ส่วน
อาหารช่วง 3 เดือนที่สอง : อาหารถูกสัดส่วนและวิตามิน
วิตามินบี 1 2 6 12 : เนื้อสัตว์ นทม ปลา ธัญพืช ถั่วต่างๆ
วิตามินเอ : ตับ นท ไข่แดง
เบต้าแคโรทีน : แครอต บร็อคโคลี่ พักทอง
วิตามินซี : ฝรั้ง ส้ม มะละกอ มะเขือเทศ
วิตามินดี : ปลา ตับปลา นม โยเกิร์ต ไข่แดง
ช่วง 3 เดือนสุดท้าย
ช่วงสะสม
- ช่วงของการเสริมแต่งสุดท้ายเพื่อความสมบูรณ์ของทารกร้อย ใน 30 สัปดาห์ขึ้นไปลูกเริ่มสะสมกรดไขมันอย่างมากเพื่อสร้างสมอง
- ทารกสะสมธาตุเหล็กไว้ใช้ในช่วง 4 เดือนหลังคลอด
- ทารกสะสมแคลเซียมเพื่องสร้างกระดูกและผันที่แข็งแรง
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 5-6 กิโลกรัม (0.5 กิโล./สัปดาห์)
- ตลอดช่วงตั้งครรภ์ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น 11.5 - 16 กิโลกรัม
อาหารช่วง 3 เดือนสุดท้าย : อาหารสมองและกระดูก
โอเมก้า 3,6 :น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด
ดีเอซเอ : ปลาทะเล สาหร่ายทะเล เช่น เเซลมอน ซารดีน ทูน่า อินทรีย์
เออาร์เอ : เนื้อสัตว์ ถั่วต่างๆ
ตามินอี :จมูกข้าว ไข่แดง ธัญพืช ถั่วต่างๆ
แคลเซียม : นม ซีส เต้าหู้ ผักใบเขียว ก้างปลา
เหล็ก : ตับ เลือด เนื้อแดง ไข่แดง ผักใบเขียว
ความต้องการอาหารของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์จะแตกต่างกับผู้หญิงปกติ เช่น คุณแม่ จะต้องการแคลเซียมมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกน้อยนำไปใช้สำหรับกระบวนการส้รางกระดูกหรือต้องการโฟเลตมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกนำปใช้สำหรับกระบวนการสร้างระบบประสาท สมองและกระดูสันหลังรวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ และต้องดูแลเรื่องโภชนาการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย
ที่มา Dumex