อาการคนท้อง "ท้องแข็ง"มีกี่แบบ? 

ท้องแข็งเป็นหิน! หรือนี่จะเป็นอาการปกติ? ท้องแข็งแบบไหนที่แม่ท้องควรไปหาหมอ! มาดูกันค่ะ

  ***อาการท้องแข็งที่แม่ๆหลายคนเจอ! สาเหตุหลักเกิดจากการที่มดลูกบีบตัวค่ะ จึงทำให้มีอาการปวดท้องและท้องแข็งตัวซึ่งจะเป็นอาการที่คนท้องมักพบได้ทุกคนเลยค่ะ นอกจากนี้อาการท้องแข็งแบ่งได้เป็นกี่แบบ ? มาดูกันค่ะ***

อาการท้องแข็งมดลูกรัดตัวปกติ! (เจ็บครรภ์หลอก)

  สำหรับอาการท้องแข็งที่มักจะเกิดได้ปกติ มักจะพบบ่อยในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2-3 ซึ่งจะเป็นอาการท้องแข็งเป็นระยะ ไม่สม่ำเสมอ ไม่ยาวนานและค่อยหายไปเอง สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุตามนี้ค่ะ

แบบที่ 1 ทารกดิ้นแรง!

  ช่วงวัย 5-6 เดือน จะพบว่าลูกในท้องเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่แรงมากขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการถีบ การต่อยรวมไปถึงการโก่งตัว เมื่อทารกกระแทกอย่างรุนแรงกับผนังมดลูกจึงทำให้มดลูกบิดตัวและมีอาการท้องแข็งตามมานั่นเองค่ะ

แบบที่ 2 คุณแม่กินอิ่มจนเกินไป!

  ทานอาหารเยอะจนเกินไป ไม่ใช่เรื่องที่ดีกับแม่ท้องนะคะ! เพราะมดลูกที่ขยายตัวเข้าไปเบียดลำไส้ทำให้คุณแม่ย่อยได้ยากมากขึ้น ดังนั้นการทานอาหารที่ดีควรทานมื้อละน้อยๆ และเป็นทานเป็นหลายมื้อจะช่วยให้คุณแม่ย่อยได้ดี และไม่ท้องอืดท้องแข็งตามมาค่ะ

แบบที่ 3 คุณแม่กลั้นปัสสาวะ!

  อีกหนึ่งสิ่งที่คนท้องไม่ควรทำอย่างมาก! คือการกลั้นปัสสาวะค่ะ นอกจากจะทำให้มีอาการท้องแข็งตามมาแล้ว แม่ท้องยังเสี่ยงติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะอีกด้วย ดังนั้นถ้าปวดฉี่ก็ให้รีบเข้าห้องน้ำทันทีนะคะ

อาการท้องแข็งใกล้คลอด! (เจ็บครรภ์คลอด)

  อาการนี้จะเกิดขึ้นช่วงใกล้คลอดค่ะ ช่วงอายุครรภ์ 38-40 สัปดาห์ หากคุณแม่สัมผัสจะพบก้อนแข็งๆบนหน้าท้องและมีอาการปวด ปวดติดต่อเป็นระยะทุกๆ 5-15 นาที จากนั้นจะเริ่มมีอาการปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ปากมดลูกเริ่มขยายและเริ่มมีมูกไหลออกจากช่องคลอด นั่นเป็นสัญญาณว่า “แม่กำลังคลอด” แล้วค่ะ!

  ***สำหรับอาการท้องแข็งเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ลองสังเกตอาการตัวเองให้ดีๆนะคะ หากคุณแม่มีอาการท้องแข็งที่ติดต่อกันเป็นเวลานานและเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะคุณแม่อาจกำลังใกล้คลอดลูกค่ะ***

“ใส่ใจสุขภาพตัวเอง เพื่อลูกน้อยในท้อง”