10 เรื่องจริง!! อาการท้องแข็ง

         ท้องแข็งเป็นก้อนหินแบบนี้ จะทำไงดี?!! มีอาการตึงๆ เป็นๆ หายๆ แบบนี้อันตรายหรือไม่?!! มาดูความ 10 ความจริงเกี่ยวกับท้องแข็งกันค่ะ

         **การตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายมดลูกจะเริ่มขยายตัวขึ้น บางครั้งคุณแม่อาจรู้สึกว่าท้องแข็งหรือรู้สึกตึงหน้าท้อง ซึ่งเกิดจากการหดรัดตัวของมดลูกเป็นครั้งคราวจะรู้สึกท้องแข็งนานเป็น 10 นาที แล้วคลายลงและเป็นต่อเนื่อง 4-5 ครั้งเป็นชุดๆ มาดูสาเหตุของอาการท้องแข็งและวิธีบรรเทาค่ะ**

สาเหตุอาการท้องแข็ง!!

1.ทารกดิ้นแรงหรือโก่งตัว

         เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด เพราะทารกขยับตัวแรงหรือโก่งตัวไปชนผนังมดลูกทำให้มดลูกเกิดการบีบตัวและแข็ง อวัยวะของทารกจึงโผล่นูนมายังหน้าท้องซึ่งเป็นอาการปกติค่ะ

2.การทานอาหารอิ่มมากไป

         ทานอาหารอิ่มจนเกินไปจะทำให้เกิดแก้สในกระเพาะอาหาร เมื่อมดลูกถูกการเบียดจากกระเพาะอาหารจึงทำให้มดลูกบีบตัวแข็งได้ คุณแม่จึงควรทานอาหารที่ย่อยง่ายมื้อเล็กๆ หลายๆมื้อนะคะ

3.กล้ามเนื้อมดลูกขาดเลือด

         สำหรับอาการนี้สำคัญมากค่ะ เกิดจากการที่มดลูกบีบแข็งตัวเพราะกล้ามเนื้อผนังมดลูกขาดปริมาณเลือด ส่งผลให้คลอดกำหนดและสามารถแท้งได้ค่ะ

4.พักผ่อนน้อยหรือทำงานหนัก

         การหักโหมทำงานหนักและพักผ่อนน้อยส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแม่ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดมดลูกบีบตัวแข็งตัวได้เช่นกันค่ะ

5.กลั้นปัสสาวะบ่อยครั้ง

         ข้อนี้ต้องระวังอย่างมากค่ะ เพราะการกลั้นปัสสาวะนานๆ ส่งผลต่อเกิดปัญหากับระบบขับถ่ายแล้ว ยังมีผลต่อการบีบตัวของมดลูกอีกด้วยค่ะ

วิธีบรรเทาอาการท้องแข็ง!!

6.ลดกิจกรรมหักโหม

         เพราะกิจกรรมหักโหมทำให้ร่างกายคุณแม่ทำงานหนัก เหนื่อยและพักผ่อนน้อยจึงทำให้มดลูกบีบตัว ควรหากิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้นนะคะ

7.เดินเล่นหลังรับประทานอาหาร

         เมื่อคุณแม่รับประทานจนอิ่มแล้วให้ทำการเดินเล่นเพื่อให้อาหารได้ย่อยและไม่เกิดการจุกเสียดแน่นท้อง ก็จะช่วยลดอาการมดลูกบีบตัวได้ค่ะ

8.ห้ามกลั้นปัสสาวะ

         การกลั้นปัสสาวะทำให้กระเพาะปัสสาวะโตซึ่งจะไปเบียดมดลูกแล้วเกิดการบีบตัวได้ ดังนั้นปัสสาวะทุกครั้งห้ามปล่อยไว้นานนะคะ

9.งดการมีเพศสัมพันธ์ช่วงใกล้คลอด

         เพราะการมีเพศสัมพันธ์ทำให้มดลูกเกิดการกระแทกอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้ผนังมดลูกเกิดการบีบตัวได้ และทำให้ท้องแข็งนั่นเองค่ะ

10.งดการเคลื่อนไหวรุนแรง

         การเคลื่อนไหวที่รุนแรงรวมไปถึงการสัมผัสหน้าท้องให้งดการทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นค่ะ เพราะมีส่วนที่ช่วยกระตุ้นให้ผนังมดลูกเกิดการบีบตัวแล้วท้องแข็งได้ คุณแม่ต้องระมัดระวังนะคะ

         **ทีนี้คุณแม่ก็สามารถรับมือกับอาการท้องแข็งได้แล้วนะคะ ซึ่งหากมีอาการรุนแรงและหายใจไม่สะดวกคุณแม่ควรเข้าพบแพทย์ทันทีเพื่อไม่ให้อาการท้องแข็งนั้นส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ และเพื่อลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดนะคะ**

“ดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อลูกในครรภ์เติบโตอย่างปลอดภัย”