ท้องนอกมดลูกคืออะไร?

**ท้องนอกมดลูก คำนี้แม่ท้องคงเคยได้ยินใช่ไหมคะ ท้องนอกมดลูกคืออะไร เกิดได้ยังไง อันตรายแค่ไหน? มาดูคำตอบกันในคลิปนี้เลยค่ะ**

ท้องนอกมดลูก คืออะไร?

คือภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ที่เป็นอันตรายต่อตัวแม่และเด็ก เพราะตัวอ่อนไม่ฝังตัวอยู่ในโพรงมดลูกดัง แต่กลับไปฝังตัวอยู่นอกโพรงมดลูก โดยอาจจะเป็นปีกมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ ปากมดลูก หรือช่องท้องค่ะ ซึ่งจะทำให้การเจริญเติบโตของตัวอ่อนผิดปกติ เพราะอยู่ในตำแหน่งที่ผิดไม่รองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนนั่นเอง นอกจากนี้ยังทำให้อวัยวะภายในของคุณแม่ได้รับความเสียหาย จนอาจทำให้เลือดออกในช่องท้อง และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นะคะ

สัญญาณท้องนอกมดลูก

1. ปวดบริเวณท้องน้อยมาก ปวดได้ทั้งซ้ายหรือขวา

2. ประจำเดือนขาด มีเลือดออกทางช่องคลอดแบบกะปริดกะปรอย 

3. อาจมีอาการซีด หรือปวดไหล่

4. เมื่อตรวจภายในจะพบเลือดออกในช่องคลอด หากเสียเลือดภายในช่องท้องมากจะความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว เป็นสัญญาณบอกเหตุว่ากำลังจะเกิดอาการช็อค 

ใครที่มีความเสี่ยง“ท้องนอกมดลูก”?

1. มีประวัติตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน

2. แม่ตั้งครรภ์ในช่วงที่อายุมากแล้ว 

3.มีความผิดปกติของท่อนำไข่ ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบเรื้อรัง การมีพังผืด มีก้อนเนื้องอก หรือเคยผ่าตัดทางนรีเวช หรือท่อนำไข่เติบโตได้ไม่ดี ตีบตันบางส่วน หรือบีบตัวได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ตัวอ่อนเดินทางช้าลง จนต้องฝังตัวก่อนถึงโพรงมดลูกได้ค่ะ

จะเกิดอะไรขึ้น หากพบว่าท้องนอกมดลูก?

การท้องนอกมดลูกสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆ ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยตัวอ่อนที่ฝังตัวอยู่นอกมดลูกนั้น จะไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นทารกได้อีก ต้องได้รับการรักษาด้วยการนำตัวอ่อนนั้นออกไป หากไม่มีอาการปวดท้องมาก ไม่มีเลือดออกภายในช่องท้อง แพทย์จะคอยดูอาการไปก่อน หรืออาจฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ หรือเข้าที่ตัวอ่อนโดยตรง ได้ แต่หากมีอาการหนัก อาจต้องผ่าตัด โดยอาจตัดปีกมดลูกบางส่วน เฉพาะส่วนที่ตั้งครรภ์ หรือตัดปีกมดลูกทั้งหมดค่ะ

**หากพบสัญญาณท้องนอกมดลูก รีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม หากเคยท้องนอกมดลูก ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ตามปกติได้ค่ะ เพียงแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด และต้องฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้เต็มที่อย่างน้อย 3-6เดือนค่ะ**

“เพราะการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่าย สุขภาพและจิตใจล้วนสำคัญ”