คนท้องแบบไหนต้องฉีดยากันแท้ง?

**เปิด**

**คุณแม่ท้องอาจจะเคยได้ยินยากันแท้งกันบ้างใช่ไหมคะ มาดูกันค่ะ ว่ายากันแท้งคืออะไร คนท้องแบบไหนต้องฉีดยากันแท้ง?**

**ตัดเข้าเพลง**

โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรกที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเสี่ยงต่อภาวะอันตรายต่างๆ ขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้เสมอ แต่สำหรับบางคนก็เลี่ยงไม่ได้ จึงต้องได้รับยากันแท้งนั่นเองค่ะ สงสัยไหมคะว่ายากันแท้งคืออะไร 

ยากันแท้ง คือ ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขณะตั้งครรภ์อยู่แล้วค่ะ โดยจะช่วยให้ผนังมดลูกของคุณแม่หนาขึ้น ไม่ให้ผนังมดลูกหลุดง่ายเกินไป และจะช่วยเพิ่มหรือปรับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมนั่นเอง

1. แม่ท้องที่ขาดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน 

 โปรเจสเตอโรน หรือ ฮอร์โมนสำหรับการตั้งครรภ์ ปกติแล้วเมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้จะเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนนี้จะไปกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นเพื่อให้ไข่ที่ผสมแล้วมาฝังตัว และยืดขยายได้ดีขึ้นเพื่อให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโต และยังยังช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ไปหล่อเลี้ยงที่มดลูกเพื่อนำอาหารและออกซิเจนไปให้แก่ลูกน้อย ช่วยกระตุ้นให้ทารกในครรภ์มีการพัฒนา มีการสร้าง และการเจริญเติบโตของอวัยวะต่าง ๆ ดังนั้นหากขาดฮอร์โมนนี้อาจทำให้คุณแม่แท้งได้ค่ะ

2. แม่ท้องที่เคยมีประวัติการแท้งมาก่อน 

ถึงแม้ว่า คุณแม่จะยังไม่มีเลือดออกหรือมีภาวะแท้งคุกคาม แต่หากคุณแม่ท้องมีประวัติเคยแท้งมาก่อน คุณหมอก็จะพิจารณาฉีดยากันแท้งให้ เพื่อป้องกันภาวะแท้งซ้ำนั่นเองค่ะ 

3. แม่ท้องที่มีภาวะแท้งคุกคาม

ภาวะแท้งคุกคาม คือตั้งครรภ์ไปได้ซักระยะ แล้วมีเลือดออกทางช่องคลอด เมื่อคุณหมอพิจารณาแล้วว่าคุณแม่มีภาวะแท้งคุกคาม จะพิจารณาฉีดยากันแท้งให้ค่ะ ซึ่งภาวะแท้งคุกคามนั้นยังไม่มีสาเหตุแน่ชัดค่ะ เช่น

• การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือเสพยาเสพติดขณะตั้งครรภ์

• อายุมากกว่า 35ปีขึ้นไป

• การติดเชื้อในร่างกาย หรืออุ้งเชิงกราน

• มดลูกมีรูปร่างผิดปกติ

• มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ

• เกิดอุบัติเหตุที่มีการกระทบกระแทกมดลูก

• หาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด

และยากันแท้งนั้น ไม่สามารถป้องกันการแท้งในกรณีที่มาจากโครโมโซมตัวอ่อนผิดปกติได้ค่ะ

**อย่างไรก็ตาม การฉีดฮอร์โมนกันแท้งนั้นได้ผลสำหรับแม่ท้องหลายๆคน แต่บางคนก็ไม่ได้ผลค่ะ การแท้งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนั้นคุณแม่ท้องต้องพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจเช็คและป้องกันอาการผิดปกตินะคะ**

“เพราะบางสิ่งเลี่ยงเลี่ยงไม่ได้ ดูแลตนเองไว้ดีที่สุด”