***เคยอ่านรีวิว แถมยังเคยฟังคนอื่นเล่ามาอีก บอกว่าคลอดธรรมชาติเจ็บมาก น่ากลัวมาก หรือเราจะเปลี่ยนใจไปผ่าคลอดดีนะ? แม่ท้องคนไหนกลัว หรือลังเลว่าจะเลือกคลอดแบบวิธีไหนดี ห้ามพลาดคลิปนี้ค่ะ แต่ก่อนที่จะไปดูคลิป อย่าลืมกดLIKEตรงนี้ ใครกดแล้วขอให้ มีโชคลาภรับเงินตลอดปีนะคะ***

การคลอดธรรมชาติมีข้อดีมากมาย แม่ท้องหลายคนคงอยากที่จะคลอดด้วยตัวเอง แต่ก็ยังลังเล เพราะมีกระแสที่ว่าแม่ท้องหันไปเลือกผ่าคลอดกันเยอะ เพราะมีคนบอกว่าตอนผ่าคลอด จะเจ็บน้อยกว่าคลอดธรรมชาติ เลยทำให้แม่ท้องลังเลว่าจะคลอดแบบไหนดี วันนี้แอดมินมีคำแนะนำเพื่อประกอบการตัดสินใจของแม่ท้องมาฝากค่ะ ว่าคลอดธรรมชาติดียังไงค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วไปดูกันเลย

1.ลูกสามารถเติบโตจนเต็มที่

พอครบ 40 สัปดาห์อวัยวะทุกระบบสมบูรณ์จะเต็มที่ ทารกจึงจะคลอดออกมา ในขณะที่การผ่าคลอดจะต้องนัดผ่าตัดก่อนครบกำหนดประมาณ 1-2 สัปดาห์ บ่อยครั้งที่อายุครรภ์คลาดเคลื่อนทำให้คลอดเร็วเกินไป จนลูกต้องอยู่ในตู้อบหรือบางรายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ดังนั้นการคลอดธรรมชาติจะทำให้ลูกเติบโตได้อย่างเต็มที่ในท้องคุณแม่ค่ะ

2.ลูกมีเวลาปรับตัว
การผ่าคลอด ลูกจะถูกคุณหมอยกออกมาจากมดลูกอย่างกะทันหัน จนบางครั้งลูกอาจจะตกใจ และปรับตัวไม่ทันกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เช่น อุณหภูมิและแสงสว่าง เป็นต้นส่วนการคลอดเองลูก จะค่อยๆเคลื่อนตัวช้าๆผ่านช่องคลอดที่มีความยืดหยุ่น แนบกระชับไปตลอดลำตัวของลูกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อส่วนศีรษะคลอดออกมา ลำตัวของลูกจะยังอยู่ในช่องคลอด จะช่วยไม่ให้ลูกหายใจเร็วเกินไป เพื่อที่คุณหมอจะได้มีเวลาดูดน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกทารกให้หมดก่อน ในขณะที่การผ่าคลอด จะต้องให้ลูกคลอดจากมดลูกจนหมดทั้งตัวก่อน จึงค่อยนำมาดูดเมือกในปากและจมูก ทำให้ลูกมีโอกาสจะหายใจสำลักเอาเมือกในจมูกเข้าไปอุดในหลอดลมได้มากกว่านั่นเองค่ะ
 

3. กินนมแม่ได้เร็วกว่า
ในขณะที่ทารกอยู่ท้อง จะอยู่ในถุงน้ำคร่ำและหายใจเอาน้ำคร่ำเข้าไปอยู่ในช่องปอดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งกลืนกินน้ำคร่ำเข้าไปจนเต็มกระเพาะอาหาร แต่ในขณะที่ลำตัวทารกค่อยๆ คลอดผ่านช่องคลอด ผนังช่องคลอดจะช่วยรีดน้ำคร่ำในปอดและน้ำคร่ำที่อยู่ในกระเพาะอาหารให้ไหลย้อนออกมาทางปากจนหมด ทำให้ปอดสามารถขยายตัวได้เต็มที่ ทารกจะหายใจรับออกซิเจนเข้าปอดได้เต็มความจุของปอด ช่วยให้ทารกสามารถดูดนมได้ทันทีที่คลอด ส่วนทารกที่คลอดโดยการผ่าคลอด จะมีน้ำคร่ำค้างอยู่ในปอดและกระเพาะอาหาร เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการคลอดตามธรรมชาติ อาจทำให้หายใจไม่เต็มที่ หายใจเร็วเพื่อให้ได้ออกซิเจนให้เพียงพอ และส่วนใหญ่มักจะดูดนมได้ช้ากว่า เนื่องจากยังรู้สึกอิ่มอยู่เพราะยังมีน้ำคร่ำค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนั่นเองค่ะ

4.ท้องไม่อืด
ปกติลำไส้ของทารกตอนอยู่ท้องจะไม่มีแบคทีเรียเลย เพราะฉะนั้นเมื่อถูกผ่าคลอดผ่านทางหน้าท้องของแม่ที่ทำความสะอาดไว้แล้ว จึงทำให้ไม่มีแบคทีเรียต่อไป ต้องค่อยๆมารับแบคทีเรียจากภายนอกในภายหลัง มีโอกาสที่จะท้องอืด ท้องเสีย ได้วิตามินไม่ครบในช่วงแรกของชีวิตได้
ในขณะที่ทารกที่คลอดผ่านทางช่องคลอด จะได้รับแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการย่อยอาหารและการดำรงชีวิตจากช่องคลอดของแม่ ผ่านทางปากเข้าไปเรียบร้อยตั้งแต่แรกคลอด ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาของระบบทางเดินอาหารนั่นเองค่ะแม่ท้อง

5.ไม่เจ็บอย่างที่คิด

การคลอดในปัจจุบันนี้ มียาระงับปวดช่วยฉีดให้คุณแม่ทุเลาปวดหรือหลับไปในระหว่างรอคลอดได้ บางแห่งมีบริการฉีดยาเข้าไขสันหลังทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยตลอดการคลอด แต่ถึงจะเจ็บก็มีข้อดีคือ คุณแม่จะได้รับรู้วินาทีของการคลอดอย่างแท้จริง และเมื่อได้ยินเสียงร้องเล็กๆ เห็นหน้าลูกครั้งแรก ความเจ็บนั้นจะหายไปทันทีค่ะ แถมแผลก็หายเร็วกว่าจะไม่ค่อยมีผลข้างเคียงนั่นเองค่ะ
 

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับข้อดี ของการคลอดธรรมชาติที่แอดมินบอกไป พอจะทำให้แม่ท้องตัดสินใจกันง่ายขึ้นกันบ้างไหมคะ ถ้ายังลังเลอยู่ก็ลองนึกถึงวินาทีที่ความเจ็บปวดหายไป เมื่อเห็นหน้าลูกครั้งแรกดูสิคะ รับรองว่าแม่ท้องคงอยากจะคลอดธรรมชาติแน่ๆค่ะ

***การคลอดเป็นขบวนการตามธรรมชาติ จึงควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ การผ่าตัดคลอดโดยไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่พียงพอ อาจทำให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์เสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าแม่ท้องจะต้องทำคลอดแบบไหน แอดมินก็ขออวยพรให้คลอดง่าย แข็งแรงทั้งแม่และลูกนะคะ***

“แม่และพ่อภาวณาขอให้ลูกเกิดรอด ปลอดภัย ร่างกายแข็งแรง”