***โอ้ย เครียด! “ลูกร้องไห้งอแงทั้งวัน แผลก็ยังไม่หาย นี่เรากินอะไรผิดสำแดงไปรึเปล่าเนี่ย เฮ้อ..เพลีย” คุณแม่คนไหนไม่อยากเครียดเพลียทั้งร่างกายและจิตใจ ห้ามพลาดคลิปนี้ค่ะ ก่อนไปดูอย่าลืมกดLike แม่ท้องคนไหนกดไลค์ขอให้ชีวิตไม่เจอคนโกงนะคะ***

ช่วงเวลาหลังคลอด คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกด้วยน้ำนม และร่างกายคุณแม่ยังไม่แข็งแรงเต็มที่ ดังนั้นคุณแม่จึงจำเป็น ที่จะต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีสารอันตรายเข้าไปปนเปื้อนกับน้ำนม จนอาจถึงขั้นส่งผลเสียต่อพัฒนาการของลูกและตัวคุณแม่เองนะคะ เรามาดูกันค่ะว่าหลังคลอด 1-3 เดือนคุณแม่ไม่ควรกินอะไร

1.อาหารทะเล

คุณแม่ทราบไหมคะว่า อาหารทะเล มีสารเคมีปนเปื้อนอยู่ ดังนั้นการทานอาหารทะเลมากเกินไปในช่วงให้นม อาจเป็นอันตรายต่อพัฒนาการและระบบประสาทส่วนกลางของลูก ทำให้เด็กมีพัฒนาการช้าและผิดปกติได้ค่ะ แต่ถ้าหากคุณแม่อดใจไม่ไหวอยากกินอาหารทะเลจริงๆ แอดมินแนะนำให้คุณแม่ กินปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน และปลาทูน่า ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อพัฒนาการของลูกจะดีกว่าค่ะ

2. อาหารปรุงไม่สุก อาหารค้างคืน

เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่ในช่วงที่กำลังให้นมลูก ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ปรุงไม่สุก เช่น ซูชิ แหนม ปลาร้า หมูหรือเนื้อที่ไม่สุก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะติดเชื้อจนมีอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษตามมาได้ รวมไปถึงอาหารค้างคืนที่นำมาอุ่นกินทีหลังหรืออาหารที่ผ่านการต้มหรือตุ๋นเป็นเวลานานๆ ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อย ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ที่ทำให้คุณแม่และลูกเกิดอาการท้องเสียได้ง่ายทั้งสิ้นค่ะ

3.ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวบางชนิด จะมีกรดที่ทำให้ลูกน้อยเกิดอาการระคายเคืองได้ เช่น ส้มและมะนาว ที่อาจทำให้ลูกน้อยมีอาการจุกเสียด รู้สึกไม่สบายตัว มีอาการคันตามผิวหนังหรือเป็นผื่นผ้าอ้อมได้ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ที่อยากรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อเพิ่มวิตามินซีในน้ำนม แนะนำให้กินสับปะรดหรือมะม่วงแทนก็ได้ค่ะ 

4.คาเฟอีน
คาเฟอีนพบมากใน กาแฟ ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ช็อกโกแลต และไอศกรีมนั้น มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของทารก เมื่อคุณแม่ดื่มหรือกินเข้าไปคาเฟอีนจะคงอยู่ในร่างกายนานถึง 5-7 ชั่วโมง และใช้เวลานาน 24 ชั่วโมงกว่าจะถูกขับออกจากร่างกายทั้งหมด ทั้งนี้หากทารกกินนมที่มีสารคาเฟอีนเข้าไป อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย น้ำมูกไหล และหลับยากได้ค่ะ

5.อาหารรสจัด
รสชาติของน้ำนมจะเปลี่ยนไปตามอาหารที่คุณแม่ลูกอ่อนกิน หากชอบกินอาหารรสจัดในช่วงที่กำลังให้นมก็จะส่งผลในเรื่องของอารมณ์ของลูก สังเกตได้ว่าลูกจะมีอาการหงุดหงิดง่าย ร้องไห้ไม่หยุด นอนหลับน้อย และตื่นขึ้นมาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นคุณแม่ควรเลี่ยงกินอาหารรสจัด และหันมากินอาหารที่มีส่วนผสมของกระเทียมที่มีสารอัลลิซินแทน จะช่วยในการผลิตน้ำนมและช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้เยอะมากขึ้นค่ะ

6.อาหารแก๊สเยอะ
ผักและผลไม้ที่คุณแม่ลูกอ่อนควรเลี่ยงในช่วงให้นมลูก คือผักตระกูลกะหล่ำ เช่น ดอกกะหล่ำปลี บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง และควรเลี่ยงกินผลไม้บางประเภท เช่น กล้วยหอม และลูกพรุนที่เต็มไปด้วยแก๊ส ที่อาจส่งผลทำให้ทารกมีลมในกระเพาะอาหาร มีอาการแน่นท้อง ท้องอืด และไม่สบายตัวได้นะคะ

7.อาหารประเภทโปรตีนเชิงซ้อน  พบมากในนมวัว ถั่วเหลือง ข้าวสาลี  ข้าวโพด  ไข่ และพวกถั่วเมล็ดแห้ง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่แปรรูป เช่น ขนมเค้ก เบเกอร์รี่ต่างๆ ถ้างดได้ควรงดก่อนนะคะ เพราะอาหารเหล่านี้ อาจทำให้ลูกเกิดอาการแพ้โปรตีนในนั้นได้ เช่น การแพ้โปรตีนในนมวัว 1-3 เดือนแรกหลังคลอด ทานได้แต่ไม่ทานมาก และหมุนเวียนไปเรื่อยๆจะดีที่สุดนะคะคุณแม่

8.อาหารหมักดอง หรือแอลกอฮอล์

หากจำเป็นต้องรับประทานจริง ๆ เช่นไปงานสังคม ให้ทานหลังจากที่ให้นมลูกไปแล้ว และหยุดนมแม่ 1 มื้อ เพื่อปั๊มทิ้ง ก่อนจะให้นมครั้งต่อไปได้ เพราะสารเคมีจากแอลกอฮอล์ และอาหารหมักดองส่งผลต่อสมองของลูกเต็มๆค่ะ

ไม่ใช่ทานไม่ได้เลยค่ะ แต่ทานได้นิดหน่อย ถ้าทานเยอะแอดมินรับรองว่าส่งผลกระทบกับลูกแน่นอน อาจจะอารมณ์รุนแรง หัวช้า ควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อโตขึ้นค่ะ

***อาหารทั้งหมดที่แอดมินบอกไป เป็นอาหารที่ส่งผลร้ายกับลูกและคุณแม่เองล้วนๆ เพราะฉะนั้นคุณแม่ ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และทานแต่พอดี อย่างที่แอดมินบอกทุกครั้งนะคะ***

“อดเปรี้ยวไว้กินหวาน อดกะเพราะไว้กินชาบู”