การนอนดึกนั้นยังไม่ส่งผลต่อลูกในท้องมากเท่ากับการนอนไม่เพียงพอ เพราะการนอนหลับอย่างเต็มที่จะทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงลูกได้ดี ส่งผลให้ลูกในท้องมีการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์

แม่ท้องจึงควรนอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ในทุกๆ คืน และควรนอนกลางวันเพิ่มเติมด้วย ซึ่งแม่ท้องต้องพยายามเปลี่ยนเวลานอนให้เหมาะสม ราวๆ ก่อน 4 ทุ่ม เพื่อให้คุณแม่หลับลึก พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ช่วยเรื่องสุขภาพร่างกายของแม่ท้องเอง แถมลูกก็จะตัวโต สมบูรณ์แข็งแรง อีกด้วย

• ใช้หมอนช่วยพยุงร่างกาย เพราะแม่ท้องมักจะมีอาการปวดหลัง ควรหนุนหมอนพยุงหลังช่วยให้หลับสบาย ถ้าแม่ท้องรู้สึกปวดขาก็ให้เอาขาวางบนหมอนทั้งสองข้าง หรือแม่ท้องนอนตะแคง ต้องใช้หมอนรองน้ำหนักบริเวณท้อง
• ใช้กลิ่นเสริมบรรยากาศ สร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมๆ จากการจุดเทียนหอม หรือน้ำมันหอมระเหย ควรเลือกที่สกัดจากธรรมชาติ กลิ่นไม่ฉุนเกินไป จะช่วยให้แม่ท้องหลับได้นานขึ้น
• ฟังเพลงกล่อมนอน เลือกเพลงจังหวะช้าๆ ฟังสบาย ที่จะช่วยให้ร่างกายแม่ท้องผ่อนคลาย
• นั่งสมาธิหรืออ่านหนังสือก่อนนอน ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิอย่างจริงจัง เพียงสวดมนต์ หรือจดจ่อกับสติ ก็ช่วยให้แม่ท้องผ่อนคลายได้ หรือจะอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม จะเป็นหนังสือสวดมนต์ก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้เกิดความสงบรู้สึกสบายใจ ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีวิธีแก้ปัญหาแม่ท้องหลับยากจากคุณหมอมาฝากกันด้วย โดยนพ.ม.ร.ว.ทองทิศ ทองใหญ่ สูตินรีแพทย์ ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า

1. ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ หากคุณแม่มีความเครียดจากการทำงานหรือสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และทารก จึงควรกำจัดสาเหตุของความเครียดและความวิตกกังวล เช่น หาคนมาช่วยงานบ้าน หาวันหยุดพักร้อนเพื่อให้ผ่อนคลายจิตใจ
2. แม่ท้องไตรมาสที่สอง หากเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน อาจออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเมื่อยล้า มีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
3. ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอน แต่ก็ต้องดูว่าระยะของการตั้งครรภ์ตอนนี้อยู่ในไตรมาสไหน การดื่มน้ำก่อนนอนในไตรมาสแรกและไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ อาจทำให้คุณแม่ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึก จึงควรสังเกตตัวเองและปรับวิธีตามความเหมาะสม
4. อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้เส้นเลือดขยายตัวและไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้แม่ท้องที่เคยนอนดึก นอนน้อยนั้น สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น
5. ปรับเวลาการเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา ร่างกายจะปรับตัวตาม เหมือนเราได้ตั้งนาฬิกาเอาไว้
6. ปรับสิ่งแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสม ด้วยการกำจัดสิ่งรบกวน ทำให้ห้องนอนนั้นเงียบ เย็น และมืด
7. ให้คุณพ่อนวดบริเวณหลังไหล่และคอ ด้วยโลชั่นหอมๆ ช่วยผ่อนคลาย